หลอกให้รักหลอกลงทุน ภัยหาเหยื่อในเพจหาคู่ อ้างเป็นเจ้าของบริษัท

ภัยสังคมออนไลน์ หลอกให้รักหลอกลงทุน หาเหยื่อในเพจหาคู่ ตำรวจกองปราบบุกจับหนุ่มร่วมแก๊ง สร้างโปรไฟล์เป็นชายวัยกลางคน แต่งกายภูมิฐาน อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย
กรณีภัยสังคมออนไลน์ หลอกให้รัก หลอกลงทุน หาเหยื่อในเพจหาคู่ ตำรวจบุกจับหนุ่มร่วมแก๊ง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หรือกองปราบ ได้ร่วมกันจับกุมนาย อ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 503/2568 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2568
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
- ร่วมกันเป็นอั้งยี่
- ร่วมกันเป็นซ่องโจร
- ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด
- ร่วมกันเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง
สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักในพื้นที่ ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
พฤติการณ์คือ สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าถูกมิจฉาชีพที่ใช้โปรไฟล์ดี ในเพจหาคู่ หลอกลวง
โดยมิจฉาชีพรายนี้ ได้สร้างโปรไฟล์เป็นชายวัยกลางคน แต่งกายภูมิฐาน อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นได้เข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหายผ่านแอปพลิเคชันไลน์ และชักชวนให้ลงทุนเทรดเหรียญคริปโทฯ
ในช่วงแรกได้หลอกให้ผู้เสียหายลงทุนจำนวนน้อยและให้ผลตอบแทนกลับมาจริงเพื่อสร้างความไว้วางใจ
- ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินลงทุนเพิ่มอีก 4 ครั้ง รวมเป็นเงินเกือบ 50,000 บาท
- เมื่อต้องการถอนเงินทั้งหมดกลับถูกบ่ายเบี่ยงและอ้างว่าต้องลงทุนเพิ่มอีก
- ผู้เสียหายจึงมั่นใจว่าถูกหลอกลวง จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นาย อ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ทำหน้าที่เป็นผู้เปิดบัญชีม้าเพื่อรับเงินจากผู้เสียหาย
- ขบวนการดังกล่าวมีการทำงานกันเป็นทีม มีการแบ่งหน้าที่กันทั้งผู้เปิดบัญชีและผู้ที่ไปทำธุรกรรมถอนเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่านายอะมัรฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายน พ.ศ.2568 ตนได้รับการว่าจ้างจากนายอนุรักษ์ (นามสมมุติ) เป็นเงิน 200 บาท ให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร บัญชีม้า และได้นำบัญชีดังกล่าวไปขายต่อให้กับนางสาวจันทร์จิรา (นามสมมุติ) ในราคา 2,000 บาท
การปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.อนุสรณ์ ทองไทย รรท.ผกก.6 บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินการ
cr. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)







