'เขื่อนภูมิพล' ลดระบายน้ำ เหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. บรรเทาน้ำท่วมภาคกลาง

'เขื่อนภูมิพล' ลดระบายน้ำ เหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. บรรเทาน้ำท่วมภาคกลาง

สทนช. ปรับลดการระบายน้ำ "เขื่อนภูมิพล" เหลือ 45 ล้าน ลบ.ม./วัน เริ่ม 17 พ.ย. นี้! หวังลดระดับน้ำในแม่น้ำปิงและเจ้าพระยา 0.75 ม. คลี่คลายสถานการณ์ น้ำท่วมภาคกลาง

นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายเร่งด่วนคือการลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง เพื่อคลี่คลายและบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมในภาคกลางที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

ลดการระบายน้ำต่อเนื่อง 2 วันติด! หวังลดระดับน้ำในแม่น้ำปิง

นายไพฑูรย์ เปิดเผยผลการหารือว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า มวลอากาศเย็นจะแผ่ลงมาปกคลุม ทำให้ภาคเหนือมีปริมาณฝนลดลง และปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนภูมิพลมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมจึงมีมติสำคัญในการ ปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพล ดังนี้:

  • วันที่ 16 พ.ย. 68 : ปรับลดจากเดิม 55 ล้าน ลบ.ม./วัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม./วัน
  • วันที่ 17 พ.ย. 68 : ปรับลดลงเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม./วัน

การปรับลดการระบายน้ำในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้ ระดับน้ำในแม่น้ำปิงลดลงอีก 0.1 - 0.15 เมตร ตั้งแต่อำเภอสามเงา จังหวัดตาก จนถึงอำเภอเมืองกำแพงเพชร ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระในพื้นที่ตอนล่างได้อย่างมีนัยสำคัญ

เชื่อมโยงถึง 'เขื่อนเจ้าพระยา' เตรียมลดการระบายน้ำตามลำดับ

รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ภาคกลางจะยังมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่การตัดสินใจลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา โดยจะสามารถทยอยลดการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาได้ตามลำดับ

พร้อมกันนี้ กรมชลประทานได้ดำเนินการผันน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกอย่างเต็มกำลัง คาดการณ์ว่าจะสามารถลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาให้เหลือประมาณ 2,400 - 2,700 ลบ.ม./วินาที ได้ในช่วงวันที่ 20 - 24 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งจะทำให้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงอีก 0.4 - 0.75 เมตร

เน้นย้ำการช่วยเหลือประชาชนและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง

นายไพฑูรย์ ย้ำว่า ทุกหน่วยงานกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ประสบภัยน้ำท่วมมาเป็นเวลานาน ส่วนพื้นที่เหนือเขื่อนภูมิพลที่ยังได้รับผลกระทบ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ติดตามดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด และที่ประชุมได้เน้นย้ำให้มีการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สถานการณ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง