วิกฤตฝนหนัก! เปิด 11 จังหวัดภาคใต้ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม
ภาคใต้เผชิญวิกฤตฝน! มรสุมกำลังแรงจ่อถล่ม 11 จังหวัด สทนช. ชี้จุดเสี่ยง นครศรีฯ สงขลา และชุมพร ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำสูง ต้องเร่งพร่องน้ำและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 30/2568 ให้ประชาชนในพื้นที่ ภาคใต้ เตรียมรับมือสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน, น้ำป่าไหลหลาก, และดินโคลนถล่ม ในช่วงวันที่ 17 – 22 พฤศจิกายน 2568 หลังมรสุมและคลื่นกระแสลมตะวันออกพัดปกคลุม ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก!
สาเหตุหลัก : มรสุมกำลังแรงและคลื่นกระแสลมตะวันออก
สทนช. ได้ประเมินสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพบว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนบน ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่
11 จังหวัดภาคใต้ที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด
พื้นที่เสี่ยงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และ น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมือง เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ประกอบด้วย 11 จังหวัด ได้แก่
- ชุมพร: (สวี, ทุ่งตะโก, พะโต๊ะ, ละแม, หลังสวน)
- สุราษฎร์ธานี: (เมือง, ชัยบุรี, พระแสง, เวียงสระ, กาญจนดิษฐ์, ดอนสัก, บ้านนาสาร, ท่าฉาง, เกาะสมุย, เกาะพงัน)
- ภูเก็ต: (เมือง, กะทู้, ถลาง)
- นครศรีธรรมราช: (เมือง, เชียรใหญ่, ชะอวด, หัวไทร, เฉลิมพระเกียรติ, ปากพนัง, พระพรหม, สิชล, นบพิตำ, ท่าศาลา, ขนอม, ช้างกลาง)
- ตรัง: (เมือง, ห้วยยอด, นาโยง, ปะเหลียน, ย่านตาขาว)
- พัทลุง: (กงหรา, ตะโหมด, ป่าบอน, ศรีนครินทร์, ศรีบรรพต, ป่าพะยอม)
- สตูล: (เมือง, ควนโดน, ควนกาหลง, ท่าแพ)
- สงขลา: (เมือง, ระโนด, กระแสสินธุ์, สทิงพระ, สิงหนคร, รัตภูมิ, บางกล่ำ, ควนเนียง, หาดใหญ่, คลองหอยโข่ง, สะเดา, นาหม่อม, จะนะ, นาทวี, เทพา, สะบ้าย้อย)
- ปัตตานี: (เมือง, หนองจิก, โคกโพธิ์, แม่ลาน, ยะรัง, ยะหริ่ง, มายอ, ทุ่งยางแดง, ปะนาเระ, กะพ้อ, สายบุรี, ไม้แก่น)
- ยะลา: (เมือง, กาบัง, ยะหา, กรงปินัง, รามัน, บันนังสตา, ธารโต)
- นราธิวาส : (เมือง, บาเจาะ, รือเสาะ, ยี่งอ, ศรีสาคร, ระแงะ, ตากใบ, เจาะไอร้อง, จะแนะ, สุคิริน, สุไหงปาดี, สุไหงโก-ลก, แว้ง)
การเฝ้าระวังในมิติอื่น ๆ ที่ต้องจับตา
นอกจากพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว สทนช. ยังเน้นย้ำให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในส่วนอื่น ๆ ด้วย:
- อ่างเก็บน้ำเสี่ยงล้น : เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ของความจุเก็บกัก ในพื้นที่ ระนอง สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่ ซึ่งมีแนวโน้มจะล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ
- ระดับน้ำล้นตลิ่ง : เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำตรัง แม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี
คำสั่งด่วนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: เตรียมพร้อมรับมือ
สทนช. ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อลดผลกระทบ:
- ติดตามสถานการณ์ : ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสม เกิน 90 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง
- จัดการระบบน้ำ : ตรวจสอบและซ่อมแซมแนวคันริมแม่น้ำ เร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักทุกขนาด โดยการ เร่งระบายและพร่องน้ำ ล่วงหน้า
- เตรียมความพร้อม : จัดเตรียมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความช่วยเหลือให้พร้อมทันที
- แจ้งเตือนประชาชน : ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพ ได้ทันท่วงที
ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง : ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เตรียมเก็บของขึ้นที่สูง และเตรียมแผนการอพยพหากสถานการณ์วิกฤต
