จับแฮกเกอร์ระดับโลก หลังหนี FBI ซุกตัวในเกาะภูเก็ต

ตํารวจไซเบอร์ รวบแฮกเกอร์ระดับโลก หลังหนี FBI ซุกตัวในเกาะภูเก็ต ความผิดฐาน เป็นบุคคลที่ประเทศอื่นร้องขอให้ส่งตัวข้ามแดน ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551
กรณีตํารวจไซเบอร์ รวบแฮกเกอร์ระดับโลก หลังหนี FBI ซุกตัวในเกาะภูเก็ต
คดีนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. ได้รับการประสานจากสํานักสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (FBI) ว่ามี แฮกเกอร์ วัย 35 ปี รายหนึ่ง ซึ่งเคยเจาะระบบความปลอดภัยและโจมตีหน่วยงานรัฐทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ได้มีเป้าหมายเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
จึงได้ประสานความร่วมมือกับสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว, สํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ, สํานักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานในพื้นที่ จนทราบว่าคนร้ายรายนี้ได้เดินทางมากบดานอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ต่อมา พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 และพล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ตอท. ประสานงานร่วมกับ พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต ส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่เพื่อติดตามพฤติกรรม และพบว่าแฮกเกอร์รายดังกล่าวได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 ต.ค.68 ทางสนามบินภูเก็ตและพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จว.ภูเก็ต
เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ประสานกับสํานักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหาต่างชาติรายนี้ไว้ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลที่ประเทศอื่นร้องขอให้ส่งตัวข้ามแดน ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551”
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตํารวจ บช.สอท. ได้สนธิกําลังร่วมกับ ตม.จว.ภูเก็ต, บก.สส.ภ.8 และ ภ.จว.ภูเก็ต นําหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นห้องพักและจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติรายนี้ไว้ได้ โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมทั้งตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อนําไปตรวจพิสูจน์ทางเทคโนโลยีต่อไป
และแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลที่ประเทศอื่นร้องขอให้ส่งตัวข้ามแดน ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551” โดยมีเจ้าหน้าที่ FBI ร่วมสังเกตการณ์ และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานําส่งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคําร้องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการ ภายใต้สนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาต่อไป
จากการร่วมปฏิบัติการระหว่างทางการไทยและสํานักสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (FBI) ในครั้งนี้ จะนําไปสู่ความร่วมมือในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันได้ถูกยกระดับเป็นวาระสําคัญของโลกในการร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องต่อไป
อ้างอิง ตำรวจไซเบอร์







