สทนช. เพิ่มระบายน้ำ 'เขื่อนภูมิพล' รับมือมวลน้ำระลอกสุดท้าย

สทนช. เร่งปรับแผน! เพิ่มระบายน้ำ 'เขื่อนภูมิพล' เป็น 48 ล้าน ลบ.ม./วัน รับมือฝนเหนือเขื่อนมากอันดับ 2 หวังคลี่คลายน้ำท่วมอยุธยา ก่อนฝนลด 13 พ.ย. นี้
วันนี้ (10 พ.ย. 68) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เร่งปรับแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือกับมวลน้ำระลอกใหม่ที่ไหลเข้าสู่เขื่อนภูมิพล หลังจากที่พบปริมาณฝนตกเหนือเขื่อนเจ้าพระยามากเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2565 โดยเฉพาะผลกระทบทางอ้อมจากพายุ “คัลแมกี” ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่งผลให้เหลือช่องว่างรองรับน้ำในเขื่อนเพียง 127 ล้าน ลบ.ม.
มติปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการ สทนช. ได้เป็นประธานในการประชุมปรึกษาหารือร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีมติเห็นชอบให้ ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล จากอัตราเดิม 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เป็น 48 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ในวันนี้ (10 พ.ย. 68) เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบโดยไม่ต้องเปิดทางระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (Spillway) ของเขื่อน
เป้าหมาย: เร่งคลี่คลายน้ำท่วม โดยเฉพาะ 'อยุธยา'
สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นระยะเวลานานหลายเดือน โดยเฉพาะในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้มีการประสานกรมชลประทานเพื่อระบายน้ำเข้าสู่ทุ่งลุ่มต่ำที่มีพื้นที่รองรับเพิ่มเติม เพื่อเร่งคลี่คลายมวลน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังจะเร่งระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเขื่อนเจ้าพระยาให้ได้มากที่สุด คาดว่าการระบายมวลน้ำชุดนี้จะเป็น ชุดสุดท้ายของฤดูฝนปี 2568
คาดการณ์สถานการณ์น้ำดีขึ้นหลัง 13 พ.ย.
จากการประเมินของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) คาดการณ์ว่า ฝนในพื้นที่ตอนบนจะลดลงตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากมวลความกดอากาศสูงได้แผ่เข้าปกคลุมพื้นที่ และฝนจะเคลื่อนตัวไปตกหนักในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น
คาดการณ์ระบายน้ำต่ำ: คาดว่าจะสามารถเริ่มระบายน้ำในอัตราต่ำกว่า 1,000 ลบ.ม. ต่อวินาที ได้ในช่วงประมาณ สัปดาห์ที่ 2 - 3 ของเดือนธันวาคม
นายกฯ สั่งการดูแลเยียวยาเต็มที่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างเต็มที่ และเร่งหาแนวทางในการ ชดเชยเยียวยาเพิ่มเติม ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยมากกว่า 30 วัน รวมถึงกำชับให้เร่งรัดโครงการแก้ไขปัญหา น้ำท่วมซ้ำซาก ในระยะยาว







