ทลายเว็บพนันใหญ่ เงินหมุนเวียน 1.2 พันล้าน บุกจับบอสพร้อมแก๊ง

ทลายเว็บพนันใหญ่ เงินหมุนเวียน 1.2 พันล้าน บุกจับบอสพร้อมแก๊ง

ตำรวจทลายเว็บพนันใหญ่รับลอยกระทง พบเงินหมุนเวียนกว่า 1.2 พันล้านต่อปี บุกจับรวบบอสชาวไต้หวัน พร้อมแก๊งคนไทย

กรณีตำรวจทลายเว็บพนันรายใหญ่ รับลอยกระทง พบเงินหมุนเวียนกว่า 1.2 พันล้านต่อปี บุกจับรวบบอสชาวไต้หวัน พร้อมแก๊งคนไทย

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 ได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่าย “HRBX856” ได้ลักลอบเปิดให้บริการเล่นพนันออนไลน์ อาทิ หวย สล๊อต บาคาร่า พนันฟุตบอลต่างประเทศ และพนันอื่นๆ อีกหลายชนิด มีรูปแบบการโอนเงินเพื่อเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านระบบบัญชีธนาคารของบริษัท ซึ่งมีชาวมาเลเซียรายหนึ่งเป็นตัวการสำคัญซึ่งขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้แจ้งจดทะเบียนดำเนินธุรกิจนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม อาทิ กระเป๋าและเสื้อผ้า มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลาดพร้าว กทม.

จากการสืบสวนพบว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีสมาชิกผู้เล่นกว่า 3.4 แสนราย เปิดมานานกว่า 1 ปี มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน หรือรวมแล้วกว่า 1.2 พันล้านบาทต่อปี

โดยบริษัท ถูกเปิดขึ้นมาเพื่อบังหน้า ไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจจริง โดยนำบัญชีธนาคารของบริษัทไปใข้ในธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ อีกทั้งเงินที่หมุนเวียนในบัญชีธนาคารของบริษัทนี้

มีการโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของอีก 2 บริษัท ซึ่งมี ชาวไต้หวันเป็นผู้ดูแล ก่อนโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารในแถวที่ 3 โดยมีคนไทยเป็นเจ้าของบัญชี ซึ่งเป็นผู้เคลื่อนไหวทางการเงินในการเบิก-ถอน ครั้งละหลักแสนถึงหลักล้านบาท ในลักษณะอำพรางเส้นเงินให้ยากต่อการติดตาม โดยมีผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายนี้จำนวนหลายราย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายได้แล้วรวม 8 ราย เป็นชาวมาเลเซีย จำนวน 1 ราย ชาวไต้หวัน จำนวน 3 ราย และชาวไทย จำนวน 4 ราย

ล่าสุด วันที่ 5 พ.ย. 68 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 3 จุด ดังนี้

จุดที่ 1 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม.

จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นร้านรับแลกเงินสกุลต่างประเทศ ย่านเยาวราช กทม.

จุดที่ 3 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิด จำนวน 6 ราย ดังนี้

1. ชายชาวไต้หวัน อายุ 32 ปี ทำหน้าที่คอยสั่งการ

2. หญิงไทย อายุ 33 ปี ทำหน้าที่ถอนเงินสดออกจากบัญชี

3. หญิงไทย อายุ 42 ปี ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

4. ชายชาวไทย อายุ 21 ปี ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

5. หญิงไทย อายุ 23 ปี ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

6. หญิงไทย อายุ 20 ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า

พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดกว่า 7 แสนบาท, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 41 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ จำนวน 4 เครื่อง, โน๊ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 11 เล่ม, บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 10 ใบ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ รวม 75 รายการ

จากข้อมูลพยานหลักฐาน เบื้องต้นพบว่า นายซู่ ชาวไต้หวัน เป็นหัวหน้าคอยควบคุมสั่งการหลังบ้าน โดยให้ผู้ต้องหากลุ่มบัญชีม้าที่ถูกจับกุมได้ทั้งหมดคอยสแกนหน้าเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีที่แต่ละคนได้เปิดไว้ 3-4 บัญชีต่อคน เฉลี่ยหลักแสนถึงหลักล้านบาทต่อคนต่อวัน เพื่อโอนต่อไปให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งผู้ต้องหาส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพ แต่มีบางรายยังให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อไป