ระเบียบใหม่คุรุสภา ว่าด้วยเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ และเงินช่วยเหลืออื่น

ระเบียบใหม่คุรุสภา ว่าด้วยเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ และเงินช่วยเหลืออื่น

ราชกิจจาฯ ประกาศ ระเบียบใหม่คุรุสภา ว่าด้วยเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษ และเงินช่วยเหลืออื่นของพนักงานเจ้าหน้าที่สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาซึ่งออกจากงาน

วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการคุรุสภา ว่าด้วยเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษ และเงินช่วยเหลืออื่นของพนักงานเจ้าหน้าที่ สํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ซึ่งออกจากงาน พ.ศ. ๒๕๖๘

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการคุรุสภา ว่าด้วยเงินบำเหน็จและเงินช่วยเหลืออื่น พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารกองทุนบำเหน็จพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการจ่ายเงินบำเหน็จรายเดือน

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๐ (๖) (ง) แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบกับมติคณะกรรมการคุรุสภา ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๖๘ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๘ คณะกรรมการคุรุสภา จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบคณะกรรมการคุรุสภา ว่าด้วยเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษ และเงินช่วยเหลืออื่นของพนักงานเจ้าหน้าที่สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาซึ่งออกจากงาน พ.ศ. ๒๕๖๘"

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการคุรุสภา ว่าด้วยเงินบำเหน็จและเงินช่วยเหลืออื่น พ.ศ. ๒๕๕๗ และบรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบคณะกรรมการคุรุสภา ว่าด้วยเงินบำเหน็จและเงินช่วยเหลืออื่น พ.ศ. ๒๕๕๗

 

เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่

ข้อ ๖ พนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานเป็นเวลาต่อเนื่องกัน มีสิทธิได้รับเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีที่ออกจากงานเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

(๑) มีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์และมีเวลาปฏิบัติงานครบสิบปีบริบูรณ์
(๒) ลาออก โดยได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาและมีเวลาปฏิบัติงานครบสิบปีบริบูรณ์
(๓) ถูกสั่งลงโทษปลดออกและมีเวลาปฏิบัติงานครบสิบปีบริบูรณ์
(๔) ถูกสั่งให้ออกและมีเวลาปฏิบัติงานครบสิบปีบริบูรณ์
(๕) ถึงแก่ความตายและมีเวลาปฏิบัติงานครบหนึ่งปีบริบูรณ์ โดยการถึงแก่ความตายนั้นมิใช่เกิดจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
(๖) ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีประสิทธิภาพ หรือปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถไม่ถึงเกณฑ์การปฏิบัติงาน ซึ่งผู้บังคับบัญชาเห็นสมควรให้ออก และทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปีบริบูรณ์
(๗) เจ็บป่วยโดยมีใบรับรองแพทย์ ซึ่งสำนักงานเห็นชอบด้วยและทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีบริบูรณ์

พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ถูกสั่งลงโทษไล่ออกจากงาน ไม่มีสิทธิได้รับเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบนี้

ข้อ ๗ สิทธิในการได้รับเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่เป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนไม่ได้

การคำนวณเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ให้คำนวณจากเงินเดือนเดือนสุดท้าย คูณด้วยจำนวนปีของเวลาปฏิบัติงาน ถ้ามีเศษของบาทให้ปัดทิ้ง ทั้งนี้ ให้จ่ายจากเงินงบประมาณของสำนักงาน

กรณีออกจากงานตามข้อ ๖ (๑) เงินเดือนเดือนสุดท้ายให้หมายความรวมถึงเงินเดือนที่ได้เลื่อนเพื่อประโยชน์ในการคำนวณเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ และให้ใช้เงินเดือนนั้นเป็นเงินสำหรับคำนวณเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่

 

ข้อ ๘ การนับเวลาปฏิบัติงานให้นับแต่จำนวนปี เศษของปีถ้าถึงหกเดือนให้นับเป็นหนึ่งปีถ้าไม่ถึงหกเดือนให้ปัดทิ้ง

การนับเวลาปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่ง สำหรับเดือนหรือวัน ให้คำนวณตามวิธีการจ่ายเงินเดือนและให้นับสิบสองเดือนเป็นหนึ่งปี

ข้อ ๙ วันลาหรือพักงาน ซึ่งได้รับเงินเดือนเต็ม การคำนวณเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ให้นับเหมือนเต็มเวลา

วันลาหรือพักงาน ซึ่งได้รับเงินเดือนไม่เต็ม การคำนวณเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ให้นับเวลาตามส่วนแห่งเงินเดือนที่ได้รับ

วันลาหรือพักงาน หรือมิได้อยู่ปฏิบัติงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนไม่นับเป็นเวลาสำหรับคำนวณเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่

ข้อ ๑๐ ในกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่ถึงแก่ความตาย ให้จ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่แก่ทายาทตามเกณฑ์ ดังนี้

(๑) บุตรชอบด้วยกฎหมายให้ได้รับสองส่วน ถ้าผู้ตายมีบุตรตั้งแต่สามคนขึ้นไปให้ได้รับสามส่วน
(๒) คู่สมรสให้ได้รับหนึ่งส่วน
(๓) บิดามารดา หรือบิดาหรือมารดาที่มีชีวิตอยู่ให้ได้รับหนึ่งส่วน

ในกรณีที่ไม่มีทายาทตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) หรือ (๓) หรือทายาทตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) หรือ (๓) ได้ตายไปเสียก่อน ให้แบ่งเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างทายาทผู้มีสิทธิที่เหลืออยู่

ในกรณีที่ไม่มีทายาทตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) และ (๓) ให้จ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่แก่บุคคลซึ่งผู้ตายได้แสดงเจตนาไว้ต่อสำนักงาน ตามแบบและวิธีการที่สำนักงานกำหนด

ในกรณีที่ไม่มีบุคคลตามวรรคหนึ่ง หรือบุคคลซึ่งผู้ตายได้แสดงเจตนาไว้ต่อสำนักงานให้จ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่แก่บุคคลตามลำดับ ดังนี้

(ก) บุคคลซึ่งได้อุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ฉันบิดามารดากับบุตรหรือผู้ให้การอุปการะพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีรายได้ไม่เพียงพอแก่อัตภาพหรือเจ็บป่วยหรือไม่สามารถช่วยตัวเองได้

(ข) บุคคลซึ่งผู้ตายได้ให้การอุปการะตลอดมา โดยจำเป็นต้องมีผู้อุปการะ

ในกรณีที่ไม่มีทายาทตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ไม่มีบุคคลซึ่งผู้ตายได้แสดงเจตนาไว้ตามวรรคสาม และไม่มีบุคคลที่จะจ่ายเงินตอบแทนได้ตามวรรคสี่ หรือบุคคลนั้นได้ตายไปก่อน ให้เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้นั้นตกเป็นของสำนักงาน

เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อนี้ ถ้าคำนวณแล้วมีเศษของบาทให้ตัดทิ้ง

เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษ

ข้อ ๑๑ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดได้รับอันตรายหรือป่วยเจ็บ เพราะเหตุปฏิบัติงานในหน้าที่หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ ซึ่งแพทย์ที่ทางราชการรับรองได้ตรวจและแสดงว่าไม่สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ต่อไปได้อีกเลย นอกจากจะได้เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในส่วนที่ ๑ แล้ว ให้ได้รับเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษอีกด้วย เว้นแต่อันตรายที่ได้รับหรือการป่วยเจ็บนั้นเกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือจากความผิดของตนเอง

ข้อ ๑๒ การกำหนดอัตราเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษ ให้สำนักงานเป็นผู้กำหนดตามสมควรแก่เหตุการณ์ประกอบกับความพิการทุพพลภาพของผู้นั้น ตามอัตรา ดังต่อไปนี้

(๑) ปฏิบัติหน้าที่ในเวลาปกติ ให้มีอัตราตั้งแต่หกถึงยี่สิบสี่เท่าของอัตราเงินเดือนสุดท้าย
(๒) ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนดในระหว่างเวลาที่มีการรบ การสงคราม การปราบปราม การจลาจลหรือในระหว่างที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้มีอัตราตั้งแต่สามสิบหกถึงสี่สิบสองเท่าของอัตราเงินเดือนสุดท้าย

ข้อ ๑๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ได้รับอันตรายดังกล่าวในข้อ ๑๑ ถ้าถึงแก่ความตายเพราะเหตุนั้นก่อนได้รับเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษไป ให้จ่ายเงินดังกล่าวตามอัตรา ดังต่อไปนี้

(๑) ปฏิบัติหน้าที่ในเวลาปกติ เป็นจำนวนสามสิบเท่าของอัตราเงินเดือนเดือนสุดท้าย
(๒) ปฏิบัติหน้าที่ในเวลาดังกล่าวในข้อ ๑๒ (๒) เป็นจำนวนสี่สิบแปดเท่าของอัตราเงินเดือนเดือนสุดท้าย

ให้นำเกณฑ์การจ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ในข้อ ๑๐ มาใช้กับการจ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษ

ข้อ ๑๔ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับอันตรายหรือป่วยเจ็บตามข้อ ๑๑ หรือถึงแก่ความตายตามข้อ ๑๓ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้นั้นหรือทายาท แล้วแต่กรณี ให้มีสิทธิได้รับเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษตามระเบียบนี้ และให้มีสิทธิได้รับเงินอื่นใดที่หน่วยงานหรือทางราชการจัดให้

เงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่กรณีพิเศษตามข้อนี้ ถ้าคำนวณแล้วมีเศษของบาทให้ตัดทิ้ง

เงินช่วยเหลืออื่น

ข้อ ๑๕ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดถึงแก่ความตายในระหว่างดำรงตำแหน่งให้จ่ายเงินช่วยเหลืออื่นจำนวนสี่เท่าของเงินเดือนและให้ได้รับเงินเดือนในเดือนที่ถึงแก่ความตายเต็มเดือน

ความในวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ถูกสั่งพักงานหรือผู้อุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยซึ่งมีสิทธิได้รับเงินเดือนโดยอนุโลมด้วย

ข้อ ๑๖ ให้นำเกณฑ์การจ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ในข้อ ๑๐ มาใช้กับการจ่ายเงินช่วยเหลืออื่นตามหมวดนี้