กองทัพไทย ยืนยันไม่ปล่อย 'เชลยศึกกัมพูชา' จนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์

'กองทัพไทย' ยืนยันไม่ปล่อย 'เชลยศึก' จนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ 'กัมพูชา' ต้องทำตามเงื่อนไข 4 ข้อ พร้อมย้ำ 'ไทยไม่เสียดินแดน ไม่เสียอธิปไตยแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว'
คืบหน้า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2568) เพจเฟซบุ๊ก กองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ข้อความระบุ 'กองทัพไทย' ยืนยันว่าจะไม่ปล่อย 'เชลยศึก' จนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ พร้อมย้ำ 'ไทยไม่เสียดินแดน ไม่เสียอธิปไตยแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว'
กองทัพไทย ยืนยันว่า 'การสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา' จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาดำเนินการตาม 'เงื่อนไขหลัก 4 ข้อ' ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศและการสังเกตการณ์ของอาเซียน (ASEAN Observer Team: AOT) ดังนี้
1. การถอนอาวุธประเภทจรวดออกจากพื้นที่ชายแดน
กองทัพทั้งสองประเทศจะต้องถอนอาวุธประเภทจรวดซึ่งมีอำนาจในการทำลายล้างสูงออกจากแนวชายแดนภายใต้การกำกับดูแลของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการถอนอาวุธแต่กองกำลังป้องกันชายแดนยังคงอยู่ในพื้นที่เดิม เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ
2. การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ต้องให้มีการดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน 5 พื้นที่ ได้แก่
- บ้านสายโท 10 ใต้ จ.บุรีรัมย์
- ช่องเหว จ.สุรินทร์
- บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว
- บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว
- บ้านชำราก จ.ตราด
ซึ่งขณะนี้ฝ่ายไทยได้ดำเนินการมีผลความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
3. การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม ต้องมีการดำเนินการตาม Action Plan ที่ได้ลงนามไว้ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568
4. การบริหารจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ต้องมีการดำเนินการตามผล การประชุม JBC สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคม 2568
'กองทัพไทย ยังคงยืนหยัดในหลักสันติวิธี เคียงข้างประชาชน พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ เพื่อปกป้องความมั่นคงและอธิปไตยของชาติอย่างสูงสุด'







