เช็กพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน สทนช. สั่งเฝ้าระวังเข้ม 7-10 พ.ย.

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือนประชาชนทั่วประเทศให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ในช่วงวันที่ 7 – 10 พฤศจิกายน 2568 หลังพบการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้

พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพบว่ามีพื้นที่เสี่ยงในหลายจังหวัด ดังนี้

ภาคเหนือ : เชียงใหม่ (อมก๋อย), ลำปาง (สบปราบ), สุโขทัย (สวรรคโลก), ตาก (แม่สอด), พิษณุโลก (บางระกำ, เนินมะปราง, วังทอง), เพชรบูรณ์ (น้ำหนาว), กำแพงเพชร (เมืองกำแพงเพชร, คลองขลุง, ลานกระบือ, ไทรงาม), พิจิตร (วชิรบารมี, วังทรายพูน)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เลย (นาด้วง, ปากชม), หนองบัวลำภู (เมืองหนองบัวลำภู, นากลาง), บึงกาฬ (เมืองบึงกาฬ, เซกา), สกลนคร (กุสุมาลย์), นครพนม (เมืองนครพนม, ท่าอุเทน, ปลาปาก, บ้านแพง, ศรีสงคราม, โพนสวรรค์), ขอนแก่น (ชุมแพ), ชัยภูมิ (เกษตรสมบูรณ์, หนองบัวแดง), บุรีรัมย์ (นางรอง)

ภาคตะวันออก : ปราจีนบุรี (บ้านสร้าง), ตราด (บ่อไร่)

ภาคตะวันตก : กาญจนบุรี (ท่ามะกา, ท่าม่วง, บ่อพลอย, ศรีสวัสดิ์), ราชบุรี (บ้านโป่ง), เพชรบุรี (ท่ายาง, แก่งกระจาน, หนองหญ้าปล้อง), ประจวบคีรีขันธ์ (เมืองประจวบคีรีขันธ์, กุยบุรี, ทับสะแก, บางสะพาน, บางสะพานน้อย, หัวหิน)

ภาคใต้ : ชุมพร (ปะทิว, ละแม), ระนอง (เมืองระนอง, กระบุรี, กะเปอร์), นราธิวาส (สุไหงปาดี)

เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำเสี่ยงน้ำล้น

นอกจากนี้ ยังมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษสำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก และอ่างฯ ที่มีน้ำไหลเข้ามากกว่าความจุเก็บกัก ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่น้ำจะล้นอ่างเก็บน้ำและส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมบริเวณท้ายน้ำได้

จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ เช่น เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ขอนแก่น นครราชสีมา ปราจีนบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี ระนอง และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น

แนวทางปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ

สทนช. ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มงวด ดังนี้:

1. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรใน 24 ชั่วโมง
2. ตรวจสอบและซ่อมแซม แนวคันริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
3. วางแผนบริหารจัดการน้ำ ในแหล่งเก็บกักน้ำทุกขนาดและเขื่อนระบายน้ำให้เหมาะสม
4. เตรียมแผนรองรับน้ำหลาก เตรียมพร้อมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ และบูรณาการความช่วยเหลือได้ทันที
5. แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ในพื้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงที

ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดตามข่าวสารและประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว