'พายุคัลแมกี' จ่อเข้าเวียดนาม ไทยรับมือฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วม

'พายุคัลแมกี' จ่อเข้าเวียดนาม ไทยรับมือฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วม

"คัลแมกี" ทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่น จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม ไทยต้องเฝ้าระวัง รับมือฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เช็กเส้นทางพายุ!

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง "คัลแมกี" (KALMAEGI) ที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก (ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์) โดยล่าสุดมีรายงานว่าพายุดังกล่าวได้ ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น แล้ว และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องเฝ้าระวังผลกระทบต่อสภาพอากาศในภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย

เส้นทางและช่วงเวลาที่คาดการณ์

  • ช่วง 4-5 พฤศจิกายน 2568 : พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่าน ตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ และจะเคลื่อนลงสู่ ทะเลจีนใต้
  • ช่วง 6-9 พฤศจิกายน 2568 : พายุจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ชายฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนาม

'พายุคัลแมกี' จ่อเข้าเวียดนาม ไทยรับมือฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วม
 

การอ่อนกำลัง : เป็นที่คาดการณ์ว่า เมื่อพายุเคลื่อนตัวใกล้ชายฝั่งเวียดนามและปะทะกับมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาจากประเทศจีน พายุจะ อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นพายุโซนร้อน และเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาดูทิศทางและความเร็วของพายุอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแบบจำลองบางแห่งยังชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลที่อาจลึกเข้ามาถึงภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย

ผลกระทบต่อประเทศไทย : ฝนตกหนักและเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

แม้ว่าพายุจะไม่ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ผนวกกับ ร่องมรสุมกำลังแรง ที่พาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนล่าง จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วง วันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2568
 

พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ (7-9 พ.ย.)

ประเทศไทยตอนบน : โดยเฉพาะ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก รวมถึงพื้นที่บริเวณใกล้เคียง จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีฝนสะสม

คำเตือนหลัก : ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะ บริเวณลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขอให้เฝ้าระวังอันตรายจาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ที่อาจเกิดขึ้นจากปริมาณฝนที่ตกหนักและตกสะสม

การเดินเรือและคลื่นลมในทะเล

  • ทะเลอันดามัน: คลื่นลมมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
  • อ่าวไทย: คลื่นลมปานกลาง
  • คำแนะนำ: ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในบางช่วงเวลาตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา

แนวโน้มหลังพายุผ่านไป

ช่วง 10-12 พฤศจิกายน 2568: คาดว่า มวลอากาศเย็นระลอกใหม่ จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นลงในตอนเช้า โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และปริมาณฝนจะลดลงอย่างชัดเจน

สรุปและข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือ ทั้งการจัดเก็บข้าวของมีค่าไว้ที่สูง การตรวจสอบความแข็งแรงของบ้านเรือน และการติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่
  • เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยง ควรเตรียมการป้องกันผลผลิตทางการเกษตรจากความเสียหายที่อาจเกิดจากฝนตกหนัก
  • โปรดติดตามการประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เนื่องจากทิศทางและกำลังของพายุมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา