หลอกลงทุนแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อายัดทัน 2.6 แสน นำเงินคืนผู้เสียหาย

อัปเดต หลอกลงทุนแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อายัดทัน 2.6 แสน นำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 230 ล้าน
กรณีหลอกลงทุนแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อายัดทัน 2.6 แสน นำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 230 ล้าน
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดขับเคลื่อนโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” ให้ต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์
คดีนี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 ได้มีมิจฉาชีพใช้ภาพโปรไฟล์หน้าตาดีเพิ่มเป็นเพื่อนกับผู้เสียหายรายหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันไลน์ จากนั้นได้พูดคุยกันจนเกิดความสนิทสนมและไว้ใจ จากนั้นบัญชีไลน์ดังกล่าวได้เริ่มชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อ้างว่าจะได้ผลกำไรต่อครั้งมากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ลงทุน
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงทำตามขั้นตอนที่คนร้ายแนะนำ และได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชีบุคคลต่างๆ จำนวน 4 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,000,000 บาท แต่เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงินลงทุนคืน กลับไม่สามารถถอนได้ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอกลวง และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเวลาต่อมา
จากกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัดได้ร่วมกันสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานส่งมอบให้แก่ พ.ต.อ.วิศวรุตม์ ไทยธานี ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.5 กระทั่งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหา โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น
- ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ต้นเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของหนึ่งในผู้ต้องหาที่รับโอนเงินไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวเพื่อลงทุนตามที่ถูกหลอก จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 350,000 บาท โดยสามารถอายัดเงินได้ทัน จำนวน 265,510 บาท
และภายหลังผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาแล้วได้ให้ถ้อยคำว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ ไม่ขอโต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 265,510 บาท คืนให้แก่ผู้เสียหายตามโครงการ MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน







