มติ ครม. แต่งตั้ง 'บวรศักดิ์' นั่ง ประธาน คกก. ขับเคลื่อนนโยบายรัฐ

มติ ครม. วันนนี้ (28 ต.ค. 68) แต่งตั้ง "เอกนิติ-ซาบีดา" นั่งรักษาการ รมว.ดีอีเอส พร้อมตั้ง 'บวรศักดิ์' ประธาน คกก. ขับเคลื่อนนโยบายรัฐ
วันนี้ (28 ต.ค. 68) นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง ประจำวันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568 ดังนี้
แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ดังนี้
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ) ได้พิจารณาเห็นชอบด้วยแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เร่งรัด และติดตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรี มีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ) เสนอ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 377/2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เร่งรัด และติดตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29กันยายน 2568 ซึ่งจะแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศเพื่อคืนความเชื่อมั่นและความสุขให้กับประชาชนใน 5 ด้าน ได้แก่ด้านเศรษฐกิจ ด้านความมั่นคง ด้านสังคม ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านการบริหารภาครัฐ การปฏิรูปกฎหมาย รวม 15 ข้อ นั้นเพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีข้างต้นเป็นไปอย่างมีเอกภาพ นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนบูรณาการการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน เร่งรัด และติดตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโดยมีองค์ประกอบหน้าที่และอำนาจ ดังนี้
1. องค์ประกอบ
- นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ที่ปรึกษา
- รองนายกรัฐมนตรีประธานกรรมการ (ศาสตราจารย์กิตติคุณ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ)
- รองศาสตราจารย์ วรากรณ์ สามโกเศศรองประธานกรรมการ
- นายนพพล ชูกลิ่นรองประธานกรรมการ
- นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธุ์รองประธานกรรมการ
- นายนิสิต จันทร์สมวงศ์กรรมการ
- เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกรรมการ
- เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกรรมการ
- เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกรรมการ
- ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกรรมการ
- เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากรรมการ
- ผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง
- ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรรมการ
- รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้รับมอบหมาย กรรมการ
- รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ที่ได้รับมอบหมายกรรมการ
- รองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับมอบหมายกรรมการ
- รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ได้รับมอบหมายกรรมการ
- หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีกรรมการ
- รองเลขาธิการ ก.พ.ร. หรือที่ปรึกษาการพัฒนากรรมการและระบบราชการที่ได้รับมอบหมายเลขานุการ
- นายอภิชน จันทรเสนกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
- เจ้าหน้าที่สำนักงาน ก.พ.ร. ที่ได้รับมอบหมายกรรมการและ ผู้ช่วยเลขานุการ
2. หน้าที่และอำนาจ
- ขับเคลื่อน เร่งรัด และติดตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไปสู่การปฏิบัติจากการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐในกำกับราชการฝ่ายบริหาร โดยให้ประสานงานกับรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลหน่วยงานนั้น หรือประสานงานกับประธานกรรมการในคณะกรรมการซึ่งปฏิบัติงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานนั้น
- เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา/อุปสรรค เพื่อเร่งรัดดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมต่อนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีเพื่อมีคำสั่งหรือมติต่อไป
- ประสานความร่วมมือและเชิญผู้แทนจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือเชิญบุคคลมาชี้แจงข้อเท็จจริง ตลอดจนให้ความเห็นหรือข้อมูล เอกสารหลักฐานที่จำเป็น เพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินงานของคณะกรรมการ
- แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อช่วยปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็น
- ดำเนินการอื่น ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
3. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นหน่วยงานกลางในการประสาน รวบรวมข้อมูล ความคืบหน้าในการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจากผู้ประสานงานของแต่ละส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการ
4. ให้สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) สนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการตามที่ประธานกรรมการหรือสำนักงาน ก.พ.ร. ร้องขอ
5. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการคณะอนุกรรมการ และคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งนี้
6. การเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งนี้ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือระเบียบของทางราชการแล้วแต่กรณี โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงาน ก.พ.ร.
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่หลังการเลือกตั้งทั่วไปเข้ารับหน้าที่
สั่ง ณ วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2568







