น้ำท่วม 15 จังหวัดวิกฤต เดือดร้อน 4.5 แสนราย พิจิตร-อยุธยา หนักสุด

ปภ. รายงานสถานการณ์น้ำท่วม 15 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อนกว่า 456,096 คน ระดมเครื่องจักรช่วยด่วน พิษณุโลก พิจิตร พระนครศรีอยุธยา วิกฤตหนักสุด แจ้งเหตุสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชม.
วันนี้ (26 ต.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีพื้นที่ประสบภัย น้ำท่วม รวม 15 จังหวัด ทั่วประเทศ ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 132,995 ครัวเรือน รวม 456,096 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสม 13 ราย ปภ. ยืนยันเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่เร่งบรรเทาผลกระทบ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
15 จังหวัดยังวิกฤต! ปภ. เร่งระดมกำลังและเครื่องจักร
รายงานจาก ปภ. ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมจากฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่งยังคงส่งผลกระทบใน 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม อุบลราชธานี และอุดรธานี ครอบคลุมพื้นที่ 56 อำเภอ 464 ตำบล 2,892 หมู่บ้าน
- ผู้เสียชีวิตรวม 13 ราย (พิษณุโลก 1 ราย, พิจิตร 1 ราย, พระนครศรีอยุธยา 11 ราย)
- ประชาชนได้รับผลกระทบ 132,995 ครัวเรือน 456,096 คน
ปภ. ได้ประสานงานกับจังหวัดอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามสถานการณ์และเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยได้ส่งชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ ปภ. เขต ลงพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหา
ปฏิบัติการเร่งด่วนในพื้นที่น้ำท่วม
1. ภาคกลาง (ลุ่มน้ำเจ้าพระยา)
ชัยนาท: ศูนย์ ปภ. เขต 16 ชัยนาท ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำเน่าเสียที่คงค้างบริเวณป่ายางหลังวัดมะปราง ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา
2. ภาคเหนือ
พิจิตร: ศูนย์ ปภ. เขต 8 กำแพงเพชร ระดมส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยรวมกว่า 25 รายการ (เช่น รถบรรทุกขนาดเล็ก, รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย, เครื่องสูบน้ำขนาด 12, 14, และ 24 นิ้ว) กระจายกำลังปฏิบัติงานสูบระบายน้ำในพื้นที่ อ.ตะพานหิน และ อ.บางมูลนาก
3. ภาคใต้ (เฝ้าระวังสถานการณ์)
ชุมพร: รายงานน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนหมู่ที่ 5 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน ได้รับผลกระทบ 45 ครัวเรือน ศูนย์ ปภ. เขต 11 สุราษฎร์ธานี สนับสนุนผ้าใบส่งน้ำ ขนาด 14 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง
สุราษฎร์ธานี: ศูนย์ ปภ. เขต 11 สุราษฎร์ธานี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล อัตราการสูบ 28,000 ลิตร/นาที เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในพื้นที่เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
ช่องทางการแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ
ปภ. ย้ำว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมสนับสนุนการทำงานของจังหวัดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มกำลัง
หากประชาชนพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทาง:
- “ไลน์ ปภ. รับแจ้งเหตุ1784” (เพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ID @1784DDPM)
- สายด่วนนิรภัย 1784







