จับตา! ภาคใต้เผชิญ 'ฝนตกหนัก' 5 วันติด 11 จังหวัดเฝ้าระวังสูงสุด

สสน. เตือนด่วน! ภาคใต้เตรียมรับมือฝนถล่มหนัก 22-26 ต.ค. 68 เสี่ยง น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ประชาชนใน 11 จังหวัดเร่งขนของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (22 ต.ค. 68) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) ออกประกาศเฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 22-26 ตุลาคม 2568 เนื่องจากฝนตกหนักสะสม โดยเฉพาะ 12 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยสูงสุด ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือ
พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ 12 จังหวัดภาคใต้ (พื้นที่สีแดง)
แม้พายุโซนร้อนกำลังแรง "เฟิงเฉิน" (FENGSHEN) จะไม่ได้เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ยังคงส่งอิทธิพลต่อร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้
ประกาศเตือนภัยครอบคลุมจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุทกภัย ได้แก่:
- ชุมพร
- สุราษฎร์ธานี
- นครศรีธรรมราช
- ภูเก็ต
- กระบี่
- ตรัง
- สตูล
- พัทลุง
- สงขลา
- ปัตตานี
- ยะลา
- นราธิวาส
รายละเอียดสถานการณ์ฝนและภัยพิบัติ
ภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากตลอดช่วง โดยปริมาณฝนสะสมรายวันอยู่ที่ 35-90 มิลลิเมตรต่อวัน และในบางพื้นที่เสี่ยงอาจมีปริมาณฝนสูงกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่กลางน้ำที่น้ำไหลผ่าน และพื้นที่ในลุ่มต่ำรวมถึงเขตเมือง
เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่งในลุ่มน้ำหลัก
กรมชลประทาน ได้สั่งการให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในลุ่มน้ำและแม่น้ำสายหลักที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะบริเวณ:
- คลองชุมพร
- แม่น้ำหลังสวน
- แม่น้ำตาปี
- คลองชะอวด
- แม่น้ำตรัง
- แม่น้ำสายบุรี
- แม่น้ำปัตตานี
มีการเตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ทั้งเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ และเรือท้องแบน เข้าประจำการในพื้นที่เสี่ยงภัยล่วงหน้า เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทันท่วงที
ข้อแนะนำและมาตรการรับมือสำหรับประชาชน
1. ติดตามข่าวสาร : ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรติดตามประกาศและการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ของ ปภ. เพื่อรับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
2. เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ:
- จัดเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน (ถุงยังชีพ) ที่มีอาหารแห้ง น้ำดื่ม ยา และไฟฉาย
- ขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายยานพาหนะไปในบริเวณที่ปลอดภัย
- ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ลาดเชิงเขา ควรสังเกตสัญญาณเตือนดินถล่ม เช่น น้ำป่าสีโคลนไหลหลาก หรือเสียงดังผิดปกติจากภูเขา และให้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่ทางราชการกำหนดทันที
3. ชาวเรือระวังคลื่นสูง : คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นอาจสูงเกิน 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
หากพบเห็นหรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมฉุกเฉิน สามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง







