แจ้งเตือน 14 จังหวัดภาคใต้ ฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก 21-25 ต.ค.

เช็กด่วน! ปภ. แจ้งเตือน 14 จังหวัดภาคใต้ ฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช่วงวันที่ 21-25 ต.ค. 68
วันนี้ (18 ต.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 14 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และอ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 เสี่ยงน้ำล้น ส่งผลกระทบบริเวณท้ายน้ำ ในช่วงวันที่ 21-25 ต.ค. 68 โดยจัดทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง วางแผนเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้ได้มากที่สุด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศฉบับที่ 16/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ โดยระบุว่า จากการติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่าพื้นที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยมีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน จึงขอแจ้งพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ในช่วงระหว่างวันที่ 21 - 25 ตุลาคม 2568 แยกเป็น
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม ฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่
- จังหวัดชุมพร (อำเภอละแม อำเภอปะทิว อำเภอพะโต๊ะ และอำเภอท่าแซะ)
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอท่าฉาง อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอพุนพิน)
- จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอฉวาง อำเภอท่าศาลา อำเภอทุ่งสง อำเภอนบพิตำ อำเภอนาบอน อำเภอปากพนัง อำเภอพรหมคีรี อำเภอพิปูน อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอลานสกา และอำเภอสิชล)
- จังหวัดพัทลุง (อำเภอกงหรา และอำเภอศรีนครินทร์)
- จังหวัดสงขลา (อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอนาทวี อำเภอรัตภูมิ อำเภอสะเดา อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอหาดใหญ่)
- จังหวัดยะลา (อำเภอเมืองยะลา อำเภอกาบัง อำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง และอำเภอยะหา)
- จังหวัดนราธิวาส (อำเภอสุคิริน อำเภอแว้ง อำเภอจะแนะ และอำเภอศรีสาคร)
- จังหวัดระนอง (ทุกอำเภอ)
- จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา อำเภอกะปง อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอท้ายเหมือง)
- จังหวัดภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
- จังหวัดกระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอคลองท่อม อำเภอลำทับ และอำเภออ่าวลึก)
- จังหวัดตรัง (อำเภอปะเหลียน อำเภอย่านตาขาว อำเภอห้วยยอด และอำเภอสิเกา)
- จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล อำเภอควนโดน อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอละงู)
ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก บริเวณจังหวัดระนอง สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ ส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของคลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำตรัง แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานี
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งเตือน 14 จังหวัดภาคใต้ และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต ให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้
โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้ได้มากที่สุด
พร้อมกันนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย และพร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในระยะนี้ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ประกาศแจ้งเตือนภัยสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน "THAI DISASTER ALERT" ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID : @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 (ตลอด 24 ชั่วโมง) เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป







