สถานการณ์น้ำอ่างฯ ล่าสุด ปริมาณน้ำรวม 86% จับตา! ฝนหนัก 17-21 ต.ค.
สทนช.เผยน้ำอ่างฯ ทั่วประเทศ 86% เตรียมรับมือฝนหนักภาคใต้ 17-21 ต.ค. ร่องมรสุมพาดผ่าน 15 จังหวัดยังอ่วมน้ำท่วม เช็กพื้นที่ล่าสุดก่อนเดินทาง
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 7.00 น. โดยระบุว่าหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตก ขณะที่ภาพรวมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำยังคงอยู่ในเกณฑ์สูง พร้อมเตือนภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนักในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้
ปริมาณฝนสูงสุด 24 ชั่วโมง
จากการวัดปริมาณฝนสะสมสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมง (15 ต.ค. 68) พบว่า มีปริมาณฝนตกหนักในหลายภาค โดยภาคที่มีปริมาณฝนสูงสุด ได้แก่
- ภาคเหนือ : จังหวัดตาก (109 มม.)
- ภาคกลาง : จังหวัดสุพรรณบุรี (109 มม.)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย (43 มม.)
- ภาคตะวันออก : จังหวัดจันทบุรี (82 มม.)
- ภาคตะวันตก : จังหวัดกาญจนบุรี (69 มม.)
- ภาคใต้ : จังหวัดชุมพร (54 มม.)
สภาพอากาศและคาดการณ์
สภาพอากาศวันนี้: อิทธิพลของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่
คาดการณ์ 17 – 21 ต.ค. 68: ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ
- ภาพรวมปริมาณน้ำรวมอยู่ที่ 86% ของความจุเก็บกักทั้งหมด (คิดเป็น 69,285 ล้านลูกบาศก์เมตร)
- ปริมาณน้ำใช้การอยู่ที่ 78% (คิดเป็น 45,270 ล้านลูกบาศก์เมตร)
พื้นที่ประสบอุทกภัย
ข้อมูล ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ยังคงเกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 15 จังหวัด 75 อำเภอ ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกบางส่วน อาทิ จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม และฉะเชิงเทรา
สทนช. เดินหน้าขับเคลื่อนการแบ่งปันข้อมูลลุ่มน้ำโขง
วานนี้ (15 ต.ค. 68) นายชุมลาภ เตชะเสน ผู้ช่วยเลขาธิการ สทนช. เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือระดับประเทศ เรื่อง แนวปฏิบัติในการแบ่งปันข้อมูลภายใต้กรอบการแลกเปลี่ยนและการใช้ร่วมกันซึ่งข้อมูลและสารสนเทศ (PDIES)
การประชุมนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาลุ่มน้ำโขง ค.ศ. 2021 – 2030 (BDS) ที่เน้นย้ำความสำคัญของการแบ่งปันข้อมูลและการประสานงานข้ามพรมแดน เพื่อบริหารจัดการการไหลของแม่น้ำ ตะกอน การรับมือภาวะฉุกเฉิน และการจัดการไฟฟ้าพลังน้ำแบบขั้นบันได ภายใต้สภาวะภูมิอากาศที่รุนแรงมากขึ้น
สทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย จัดประชุมเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ PDIES รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวปฏิบัติและความท้าทายในการแบ่งปันข้อมูลทรัพยากรน้ำ และเสริมสร้างการประสานงานระหว่างหน่วยงานเพื่อปรับปรุงการไหลของน้ำ โดยข้อมูลที่ได้จะนำไปจัดทำข้อเสนอเชิงปฏิบัติเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานตามกรอบ PDIES และส่งเสริมการใช้ข้อมูลและเครื่องมือของ MRCS ในระดับประเทศต่อไป