น้ำท่วม 15 จังหวัดวิกฤต กระทบ 1.1 แสนครัวเรือน - กทม. รับมือฝนหนัก

ปภ. อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วม 15 จังหวัด ล่าสุด กระทบกว่า 1.1 แสนครัวเรือน เร่งช่วยเหลือเต็มกำลัง พร้อมเตือน กทม.-ปริมณฑล เตรียมรับมือฝนตกหนัก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
วันนี้ (14 ต.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 15 จังหวัด รวม 76 อำเภอ 505 ตำบล 2,956 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 116,318 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตรวม 10 ราย
จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม อุบลราชธานี อุดรธานี และฉะเชิงเทรา
สำหรับสถานการณ์น้ำ พบว่าระดับน้ำทรงตัวในจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม อุบลราชธานี อุดรธานี และระดับน้ำลดลงในจังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร อุทัยธานี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา
ปภ. ยังคงให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย ทั้งด้านการดำรงชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค การขนย้ายผู้ประสบภัย การกำจัดสิ่งกีดขวาง รวมถึงการระบายน้ำและการฟื้นฟูพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
พร้อมกันนี้ ปภ. ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา (ข้อมูลวันที่ 14 ต.ค. 68 เวลา 05.00 น.) ซึ่งคาดว่าใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่าน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุม จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง หากพื้นที่ใดมีความเสี่ยง ปภ. จะส่งแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast ทันที
ปภ. ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรในพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูหรือมีน้ำท่วมขัง หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) และทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง







