'คนละครึ่ง' อัปเดตล่าสุด แจ้งด่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่ได้

ประชาชนร้านค้านับวันรอมาตรการ 'คนละครึ่ง' อัปเดตล่าสุด หรือ คนละครึ่งพลัส 2568 แจ้งด่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่ได้
กรณีประชาชนร้านค้านับวันรอมาตรการ 'คนละครึ่ง' อัปเดตล่าสุด หรือ คนละครึ่งพลัส 2568 แจ้งด่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่ได้
ตามที่มีข่าวว่า คนละครึ่ง กลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน จะลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสไม่ได้
สำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรสวัสดิการฯ) สามารถได้รับสิทธิ์ผ่านโครงการ เพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 68 ไม่ต้องลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส เพราะส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว
โดยผู้มีบัตรสวัสดิการฯ จะได้รับวงเงินเพิ่มอีกจำนวน 850 บาท ต่อคนต่อเดือน โดยเพิ่มขึ้นจากวงเงินเดิมที่มีอยู่แล้วจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 รวมทั้งสิ้น 1,700 บาทต่อคนต่อเดือน ตลอดระยะเวลาโครงการ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังคงดำเนินโครงการสวัสดิการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยความพิการ เป็นต้น
อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายในการดูแลประชาชนเพิ่มเติม เช่น การแก้ไขหนี้ภาคประชาชน สลากเพื่อการออม การลดรายจ่ายในการใช้ชีวิตประจำวันผ่านค่าพลังงาน ค่าน้ำดื่มสะอาด ค่าโดยสาร ค่าผ่านทาง เพื่อให้มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เป็นต้น เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
ตรวจสอบโดย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
'คนละครึ่ง' อัปเดตล่าสุด วันนี้เปิดลงทะเบียนร้านค้า
วันนี้ (15 ต.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียนร้านค้าสำหรับ โครงการคนละครึ่งพลัส ทีมงานได้ลงพื้นที่ที่ตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง เพื่อให้ร้านค้าได้รับทราบข้อมูล โดยร้านค้าสามารถทยอยเข้าลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 19 ธ.ค. 2568
ทั้งนี้ โครงการ "คนละครึ่ง" มีเป้าหมายในการอัดฉีดเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจรวม 88,000 ล้านบาท โดยมาจากเงินสมทบของรัฐบาล 44,000 ล้านบาท และเงินใช้จ่ายของประชาชนอีก 44,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มใช้จ่ายได้วันแรกในวันที่ 29 ต.ค.ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 และเชื่อว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะติดลบในไตรมาสที่ 4 ได้
สำหรับร้านค้าเดิม หรือผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 มีฐานข้อมูลร้านค้าเดิมประมาณ 900,000 ราย สามารถอัปเดตแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" และกดปุ่มยอมรับเงื่อนไขเพื่อเข้าสู่โครงการคนละครึ่งพลัสได้ทันที ซึ่งถือเป็นความสะดวกสำหรับร้านค้าที่อยู่ในระบบอยู่แล้ว ปัจจุบันมีร้านค้าที่ยังคงมีสถานะการใช้งานอยู่ในระบบเกือบ 1 แสนราย
ส่วนร้านค้าใหม่ที่ต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องเตรียมบัตรประชาชนและรูปถ่ายร้านค้าจริง เพื่อไปยืนยันตัวตนกับสำนักงานเขตหรือกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ จากนั้นนำหลักฐานไปที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อยืนยันว่ามีตัวตนและร้านค้าจริง เมื่อระบบตรวจสอบครบถ้วนภายใน 3 วัน ก็จะสามารถเข้าสู่ระบบแอปถุงเงินได้
ร้านค้าสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้จากเว็บไซต์ คนละครึ่งพลัส.com โดยธนาคารกรุงไทย พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่







