ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ตรวจสอบสิทธิ์ใหม่หมด ทั่วไทย

มาแล้ว กระทรวงการคลัง เปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 พ.ย.68 ตรวจสอบสิทธิใหม่หมด คนเดิมทั่วประเทศ คัดกรอง คนจนตัวจริง ได้เงินช่วยเหลือรายเดือน ผู้มีรายได้น้อย
ตามติดความเคลื่อนไหวสิทธิสวัสดิการเพื่อคนไทยล่าสุด มาแล้ว กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ในเดือน พ.ย.68 ตรวจสอบสิทธิ์ใหม่หมด 13.5 ล้านคน คนเดิมทั่วประเทศ คัดกรอง "คนจนตัวจริง" ได้รับเงินช่วยเหลือรายเดือน ผู้มีรายได้น้อย
กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ “บัตรคนจน” รอบใหม่ ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 พร้อมสั่งทบทวนสิทธิ์ผู้ถือบัตรรายเดิมกว่า 13.5 ล้านคน! เพื่อคัดกรอง "คนจนตัวจริง" และจัดสรรสวัสดิการให้ตรงจุด คาดหลังลงทะเบียนรอบใหม่ มีผู้ได้รับสิทธิรวมพุ่งแตะ 15 ล้านคน ใครคือกลุ่มเป้าหมายใหม่ รายเดิมต้องทำอย่างไรบ้าง ดูวิธีลงทะเบียน คุณสมบัติล่าสุดเป็นอย่างไร? การคัดกรองฐานะรายได้ และช่องทางยืนยันตัวตนธนาคาร สรุปทุกประเด็นสำคัญที่นี่ กับ กรุงเทพธุรกิจ
"บัตรคนจน" รอบใหม่มาแน่! เปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ย. 68 เร่งคัดกรองฐานะรายได้
เมื่อเร็วๆนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงการคลังกำลังเร่งรัดกระบวนการเพื่อเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ "บัตรคนจน" รอบใหม่ โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ ต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 หรืออย่างช้าที่สุดภายในกลางเดือนเดียวกัน ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญที่มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง
การเปิดลงทะเบียนรอบใหม่นี้ ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ "ผู้ลงทะเบียนรายใหม่" เข้าถึงสวัสดิการ แต่ยังรวมถึงการ "ทบทวนสิทธิ" ของผู้ถือบัตรรายเดิมทั่วประเทศกว่า 13.5 ล้านคน เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดสรรสวัสดิการภาครัฐมีความสอดคล้องกับฐานะรายได้และทรัพย์สินของแต่ละบุคคลในปัจจุบันมากที่สุด
ใครบ้างต้องลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์ใหม่
การลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์ในรอบนี้ จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักที่ต้องดำเนินการ ดังนี้
1. กลุ่มผู้ลงทะเบียนรายใหม่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป)
- บุคคลที่อายุครบเกณฑ์ระหว่างปี 2565–2568 ซึ่งมีจำนวนกว่า 2 ล้านคน
- ผู้ที่เคยลงทะเบียนไม่ผ่านในรอบที่ผ่านมา และต้องการยื่นเรื่องอีกครั้ง
2. กลุ่มผู้ถือบัตรเดิม (ประมาณ 13.5 ล้านคน)
- ผู้ได้รับสิทธิเดิมทุกคน จะต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ใหม่อีกครั้ง เพื่อประเมินฐานะทางการเงินและทรัพย์สินว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่
คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิรวมทั้งรายเก่าและรายใหม่ประมาณ 15 ล้านคน โดยจะมีทั้งกลุ่มที่หลุดจากระบบเนื่องจากฐานะดีขึ้น และกลุ่มใหม่ที่เข้ามาทดแทน
เปิดช่องทางลงทะเบียนและการยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568
เพื่อความสะดวกของประชาชน กระทรวงการคลังได้เตรียมช่องทางการลงทะเบียนไว้หลากหลายรูปแบบ
- ช่องทางออนไลน์: ผ่านเว็บไซต์ของโครงการ เช่น welfare.mof.go.th หรือเว็บไซต์ของโครงการ
- ช่องทางสถาบันการเงิน: ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, และธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา
สำคัญมาก! แม้จะลงทะเบียนทางออนไลน์ ผู้ได้รับสิทธิยังคง จำเป็นต้องไปยืนยันตัวตน ที่สาขาของธนาคารที่กำหนดเพื่อดำเนินการขั้นตอนสุดท้าย
เจาะลึก! เกณฑ์คุณสมบัติลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 (เบื้องต้น)
ข้อมูลของผู้ลงทะเบียนจะถูกตรวจสอบกับหน่วยงานรัฐกว่า 40 แห่ง (เช่น กรมที่ดิน, สปก., กระทรวงแรงงาน, เครดิตบูโร) โดยใช้เวลาประมาณ 45 วัน เพื่อประเมินคุณสมบัติตามเกณฑ์เบื้องต้นดังนี้
รายได้
- รายได้ส่วนตัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี และรายได้เฉลี่ยของคนในครอบครัวต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
ทรัพย์สินทางการเงิน
- มีสินทรัพย์ทางการเงิน (เช่น เงินฝาก พันธบัตร) รวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
หนี้สิน/เครดิต
- ต้องไม่มีบัตรเครดิต
- ต้องไม่มีวงเงินกู้ซื้อบ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาท ขึ้นไป
- ต้องไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถยนต์เกิน 1 ล้านบาท
สถานภาพ
- ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร, ผู้ต้องขัง, บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราห์, ข้าราชการ, พนักงานราชการ, ผู้รับบำเหน็จรายเดือน, ผู้รับบำนาญข้าราชการการเมือง, สส. และ สว.
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ละเดือนจ่ายอะไรให้บ้าง?
- วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน (วงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (กรกฎาคม-กันยายน 2568)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
- มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
สำหรับผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน รัฐบาลจะโอนเงินเพิ่มเบี้ยความพิการอีก 200 บาทต่อเดือน (รวมเป็น 1,000 บาท) โดยเงินจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
ทั้งนี้กระทรวงการคลัง จะมีการกำหนดรายละเอียดคุณสมบัติที่ชัดเจนสุดท้ายจะประกาศให้ทราบภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมกับการเปิดลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ
ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่รอคอยเงินช่วยเหลือรอบใหม่ทุกคน เตรียมตัวให้พร้อม ทั้งเอกสารและดูช่องทางลงทะเบียนไว้ให้พร้อม ทั้งการลงทะเบียนออนไลน์ และการเดินทางไปยืนยันตัวตนที่ธนาคาร เพื่อไม่พลาดโอกาสในการรับสวัสดิการสำคัญจากภาครัฐในครั้งนี้ และติดตามข่าวสารจากกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิด
อ้างอิง : กรมบัญชีกลาง , กระทรวงการคลัง , รัฐบาลไทย







