เปิดไทม์ไลน์ คนละครึ่งพลัส เริ่มใช้สิทธิ 29 ต.ค. กำหนดลงทะเบียนร้านค้า-ปชช.

เปิดไทม์ไลน์ โครงการ คนละครึ่งพลัส เริ่มใช้สิทธิ 29 ต.ค. 68 เช็กกำหนดวันลงทะเบียนร้านค้า-ประชาชน เฮ! ใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์ม Food Delivery ได้
อัปเดตล่าสุด กระทรวงการคลัง เปิดไทม์ไลน์ โครงการ "คนละครึ่งพลัส" เริ่มใช้สิทธิ 29 ตุลาคม 2568 มีระยะเวลาโครงการฯตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- เปิดรับลงทะเบียนร้านค้า เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม - 19 ธันวาคม 2568 หรือระยะเวลาตามที่กระทรวงการคลัง โดย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กำหนด
- เปิดรับลงทะเบียนประชาชน ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม - 26 ตุลาคม 2568 (เวลา 06.00 - 22.00 น.)
- ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้สิทธิโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06.00 - 23.00 น.)
โดยสามารถซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ และสำหรับการซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" สามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06.00 - 21.00 น.)
โครงการคนละครึ่งพลัส 2568 เช็กคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ เงื่อนไขการใช้สิทธิ และช่องทางลงทะเบียนสำหรับประชาชน - ร้านค้า
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- มีบัตรประจำตัวประชาชน
- ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่ (1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
เงื่อนไขการใช้สิทธิสำหรับประชาชน
- ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส ใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 68 ก่อนเวลา 23:00 น. เพื่อไม่ให้โดนตัดสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ
- ใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส กับร้านค้าที่ร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 68 เวลา 06:00 - 23:00 น. โดยชำระผ่าน G Wallet
ช่องทางลงทะเบียน
- ลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปฯ เป๋าตัง
- ผู้ที่เคย เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ตรวจสอบผลการลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง
- ผู้ที่ไม่เคย เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ตรวจสอบผลการลงทะเบียนผ่าน SMS และแอปฯ เป๋าตัง
เงื่อนไขการใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส สำหรับประชาชน
- ก่อนใช้สิทธิครั้งแรก ผู้ได้รับสิทธิจะต้องตรวจสอบสิทธิคงเหลือและเงื่อนไขการใช้สิทธิ
- การซื้อ-ขายสินค้า/รับ-ให้บริการ ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR เพื่อชำระค่าสินค้า/บริการกันแบบพบหน้า (face-to-face) ไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์หรือคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด
- ใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 06:00 - 23:00 น. ของทุกวัน
- ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการกระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินการของมาตรการ/โครงการใด ๆ ของรัฐ
กรณีซื้ออาหาร/เครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี)
- การใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีเดลิเวอรีจะต้องเป็นการซื้อขายสินค้าเฉพาะประเภทอาหาร/เครื่องดื่มโดยประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น
- รัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหาร/เครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่น
- ใช้สิทธิตามโครงการเพื่อสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ตั้งแต่ 06:00 - 21:00 น. ของทุกวัน
- ห้ามมีการรับหรือเรียกเงินทอนเป็นเงินสด หรือประโยชน์รูปแบบอื่นนอกจากการสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี ไม่ว่ากรณีใด
- การซื้อ-ขายอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี จะต้องเป็นการซื้อ-ขายกันจริง โดยผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกันหรือเป็นบุคคลเดียวกัน
การลงทะเบียนสำหรับร้านค้า
ร้านค้า สมัครเข้าร่วมโครงการ ณ จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. - 19 ธ.ค. 68
คุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
1. เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการร้านค้าฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
- ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านค้าธงฟ้าฯ) ที่ไม่ใช่นิติบุคคล เว้นแต่เป็นร้านค้าธงฟ้าฯ ของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือ
- ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 (พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ) หรือ
- ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ)
ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้
2. เป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการบริการฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการบริการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
- ผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง ตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ หรือ
- ผู้ประกอบการบริการของวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ
ทั้งนี้ ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
3. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล (ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) รถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น สามล้อถีบ เป็นต้น
4. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่
- รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ)
5. เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567 ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
6. ร้านค้าจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่
(1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
7. ประเภทสินค้าและบริการ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ โดยไม่รวมถึงสินค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า
ทั้งนี้ การกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าและบริการของโครงการฯให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด
อ้างอิง www.คนละครึ่งพลัส.com







