ยังวิกฤติ! ปภ. อัปเดต น้ำท่วม 17 จังหวัด เดือดร้อนกว่า 1 แสนครัวเรือน

ยังวิกฤติ! ปภ. อัปเดต น้ำท่วม 17 จังหวัด เดือดร้อนกว่า 1 แสนครัวเรือน

ยังวิกฤติ! ปภ. อัปเดตล่าสุด น้ำท่วม 17 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 1 แสนครัวเรือน - มีผู้เสียชีวิตรวม 19 ราย

อัปเดต น้ำท่วม วันนี้ (10 ต.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานล่าสุด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 17 จังหวัด ในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก กินพื้นที่ 78 อำเภอ 488 ตำบล 2,659 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 108,534 ครัวเรือน 363,708 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 19 ราย โดย ปภ. ยังคงติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่ประสบภัยเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่ง จำนวน 17 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

โดยใน "ภาคเหนือ" ยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร และนครสวรรค์ กินพื้นที่ 26 อำเภอ 116 ตำบล 607 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 24,893 ครัวเรือน 84,167 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

"ภาคกลาง" ยังคงมีสถานการณ์ใน 8 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม กินพื้นที่ 34 อำเภอ 290 ตำบล 1,591 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 73,907 ครัวเรือน 253,316 คน และมีผู้เสียชีวิต 8 ราย

ส่วน "ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ อุบลราชธานี และอุดรธานี กินพื้นที่ 17 อำเภอ 72 ตำบล 366 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 7,827 ครัวเรือน 19,169 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต

ขณะที่ "ภาคตะวันออก" มีสถานการณ์ใน จ.ฉะเชิงเทรา กินพื้นที่ 1 อำเภอ 10 ตำบล 95 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 1,907 ครัวเรือน 7,056 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต

ยังวิกฤติ! ปภ. อัปเดต น้ำท่วม 17 จังหวัด เดือดร้อนกว่า 1 แสนครัวเรือน

 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ยังคงร่วมกับหน่วยงานด้านการพยากรณ์อย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อเสริมกำลังการปฏิบัติงานให้รวดเร็ว โดยเมื่อวานนี้ (9 ต.ค. 68) ปภ.ได้รับการประสานจากจังหวัดที่มีสถานการณ์อุทกภัยว่ามีความจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลและทรัพยากรเข้าช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม จึงได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั่วประเทศ ตรวจสอบและวางแผนการจัดสรรเครื่องจักรกลฯเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยซึ่งขยายเป็นวงกว้าง ประกอบด้วย

ภาคกลาง ที่ส่วนใหญ่จะเป็นสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี ได้ส่งเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล อัตราการสูบ 28,000 ลิตร/นาที ขนาด 14 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ช่วยเร่งสูบระบายน้ำบริเวณคลองวัดป่ากลางทุ่ง หมู่ที่ 3 ต.บางขะแยง อ.เมืองฯ จ.ปทุมธานี ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งและพื้นที่นอกคันกันน้ำ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานการณ์โดยรวมระดับน้ำทรงตัวและมีแนวโน้มจะลดลง แต่ยังมีบางพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะที่จังหวัดบึงกาฬ สะพานข้ามห้วยลำบังบาตร ต.บ้านต้อง อ.เชกา ชำรุดเสียหายประชาชนไม่สามารถสัญจรได้เนื่องจากน้ำมีมีน้ำไหลหลาก ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร จึงได้สนับสนุนชุดสะพานถอดประกอบได้ (Bailey) จำนวน 1 ชุด และรถหัวลากจูงพร้อมหางรากบรรทุกเครื่องจักรกล จำนวน 2 คัน รถขุดตักไฮดรอลิกส์ล้อยางกู้ภัย จำนวน 1 คัน รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 3 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 6 ตัน ช่วงยาว จำนวน 1 คัน รถยนต์กู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 1 คัน รถบรรทุก 10 ล้อ ติดตั้งเครนขนาด 15 ตัน จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน และรถประกอบอาหารพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตัวเพื่อเดินทางเข้าพื้นที่ เพื่อสนับสนุนภารกิจติดตั้งสะพานเบลีย์ให้ประชาชนใช้สัญจรชั่วคราวแทนสะพานข้ามห้วยลำบังบาตร

ภาคเหนือ ระดับน้ำลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ ปภ. ยังคงเครื่องจักรกลสาธารณภัยเดิมที่อยู่ในพื้นที่ให้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตร ที่ผนังกั้นน้ำแตกและมวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 กำแพงเพชร ยังคงเดินหน้าสูบระบายน้ำในพื้นที่ ด้วยเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำบรรเทาอุทกภัย จำนวน 2 เครื่อง เพื่อระบายน้ำออกจากเขตเทศบาลเมืองตะพานหิน อ.ตะพานหิน พร้อมทั้งช่วยเหลือด้านอุปโภคบริโภค ในการผลิตและบรรจุน้ำดื่มกว่า 4,992 ขวด พร้อมแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มสะอาดให้ประชาชน ที่มาพัก ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนบ้านปากทาง ต.ในเมือง อ.เมืองฯ และพื้นที่ใกล้เคียง

ทั้งนี้ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้เป็นช่วงของวันหยุดยาว ประชาชนส่วนมากอาจวางแผนเดินทางไปเที่ยวพื้นที่ต่าง ๆ หากจำเป็นต้องขับผ่านเส้นทางหรือพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะระมัดระวังอันตรายจากถนนลื่นและถนนที่มีดินโคลนถล่ม จึงขอให้สังเกตป้ายเตือนและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สิน

หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account : "ปภ.รับแจ้งเหตุ1784" โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน Line ID : @1784DDPM หรือทางสายด่วนนิรภัย 1784 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

ยังวิกฤติ! ปภ. อัปเดต น้ำท่วม 17 จังหวัด เดือดร้อนกว่า 1 แสนครัวเรือน