จับตา! เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำ 96% ระบายน้ำเพิ่ม รับมือน้ำเหนือ

"เขื่อนสิริกิติ์" จ่อเต็มความจุ มีน้ำอยู่ 9,184 ล้าน ลบ.ม. รองเลขาฯ สทนช. ลงพื้นที่ด่วน กำชับแผนจัดการน้ำเหนือ สั่งเพิ่มการระบายเพื่อรักษาสมดุล ลุ่มน้ำน่าน
วันนี้ (8 ต.ค. 68) ณ ห้องประชุมเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนสิริกิติ์ และประชุมหารือแนวทางบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ลุ่มน้ำน่าน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในพื้นที่อุตรดิตถ์ พิจิตร และพิษณุโลก ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อบูรณาการแผนงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและลดผลกระทบต่อประชาชน
นายไพฑูรย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการติดตามสถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขื่อนสิริกิติ์ซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำหลักของลุ่มน้ำน่าน แม้หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ สทนช. ยังคงเฝ้าระวังอิทธิพลของ “พายุแมตโม” ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักในช่วงวันที่ 7–8 ตุลาคมนี้
ปรับแผนระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบ
เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ได้มีการปรับแผนบริหารจัดการน้ำ โดยเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์เป็น วันละ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำในลุ่มน้ำและบรรเทาผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำ ทั้งนี้ คาดว่า ไม่มีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้น พร้อมยืนยันว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้ ไม่รุนแรงเท่าปี 2554 เนื่องจากมีระบบบริหารจัดการน้ำที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สถานการณ์น้ำและมาตรการความปลอดภัย
สถานการณ์น้ำล่าสุดในเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 9,184.56 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 96.58 ของความจุอ่างฯ โดยยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 325.44 ล้านลูกบาศก์เมตร (ร้อยละ 3.42) และยังคงระบายน้ำในอัตรา 35 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ควบคู่กับการควบคุมการระบายน้ำของเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ และเขื่อนนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก เพื่อสร้างความสมดุลของการไหลของน้ำตลอดแนวลุ่มน้ำน่าน
ที่ผ่านมา เขื่อนสิริกิติ์ได้รับน้ำไหลเข้าอ่างรวมกว่า 6,800 ล้านลูกบาศก์เมตร จากอิทธิพลของพายุหลายลูก อาทิ “วิภา”, “คาจิกิ”, “น้ำหนองฟ้า” และ “บัวลอย”
สทนช. ได้เน้นย้ำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโครงการชลประทานอุตรดิตถ์ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำน่านอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมรับมือหากมีฝนตกหนักเพิ่มเติม
นอกจากนี้ เขื่อนสิริกิติ์ได้ให้ คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยของเขื่อน (กปข.) ลงพื้นที่ตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อนและอาคารประกอบอย่างละเอียด ระหว่างวันที่ 6–8 ตุลาคม 2568 ในช่วงที่ระดับน้ำสูงเกินร้อยละ 90 ของความจุ เพื่อ สร้างความมั่นใจแก่ประชาชน ว่าเขื่อนยังคงมีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะผู้บริหารได้เดินทางไปมอบ ถุงยังชีพ ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ







