เขื่อนป่าสักฯ ลดระบายน้ำ เหลือ 200 ลบ.ม./วิ ช่วยพื้นที่ท้ายน้ำ

"เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" กรมชลฯ "ลดระบายน้ำ" ด่วน! เหลือ 200 ลบ.ม./วิ เริ่ม 8 ต.ค.นี้ ช่วยพื้นที่ท้ายน้ำเจ้าพระยา
วันนี้ (7 ต.ค. 68) กรมชลประทาน ได้ประกาศดำเนินการปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำตามข้อสั่งการของคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.)
ปัจจุบัน (7 ต.ค. 68) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำในอัตรา 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) แต่เนื่องจากปริมาณน้ำทางตอนบนของลุ่มน้ำป่าสักมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานจึงจะทยอยปรับลดอัตราการระบายน้ำ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยจะเริ่มลดเหลือ 200 ลบ.ม./วินาที และจะทยอยปรับลดลงเหลือในอัตราวันละ 50 ลบ.ม./วินาที ในลำดับถัดไป
ผลกระทบจากการปรับลดและมาตรการร่วม
- การปรับลดการระบายน้ำดังกล่าวจะส่งผลให้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลดลงประมาณ 1.40 - 1.60 เมตร
มาตรการนี้สอดคล้องกับการดำเนินการของ เขื่อนพระราม 6 ที่ได้ปรับลดการระบายน้ำลงเหลือ 506 ลบ.ม./วินาที แล้วเช่นกัน นอกจากนี้ กรมชลประทานยังได้เร่งระบายน้ำด้านท้ายออกสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการช่วยลดภาระปริมาณน้ำในพื้นที่ด้านท้ายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด







