เตรียมรื้ออาคาร สน.สามเสน เหตุไม่ปลอดภัย เลื่อนเปิดจราจรไม่มีกำหนด

เตรียมรื้ออาคาร สน.สามเสน เหตุไม่ปลอดภัย เลื่อนเปิดจราจรไม่มีกำหนด

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยเตรียมรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน หลังประเมินแล้วไม่ปลอดภัย พร้อมเดินหน้า 6 มาตรการ แจงเหตุเลื่อนเปิดจราจรถนนสามเสนไม่มีกำหนด เพื่อความมั่นคงในระยะยาว

วันนี้ (4 ต.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ "ถนนสามเสนทรุดตัว" และอาคารสถานีตำรวจนครบาล สามเสน (สน.สามเสน) ที่เกิดความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมความคืบหน้าการดำเนินการ

เตรียมรื้ออาคาร สน.สามเสน เหตุไม่ปลอดภัย เลื่อนเปิดจราจรไม่มีกำหนด

 

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า มีการสไลด์ของดินและทำให้เสาเข็ม อาคาร สน.สามเสน หักเพิ่ม คือเสาต้นที่ 5 ซึ่งเป็นเสาหลักในการรับน้ำหนักของ สน. ชำรุด และความเสียหายได้ขยายตัวต่อเนื่องไปยังเสาต้นที่ 3 ทำให้มีกำลังรับน้ำหนักได้น้อยลง แม้ยังไม่ถึงขั้นทำให้อาคารพังถล่ม แต่ทำให้เห็นว่ามีความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัย และคนที่ลงไปทำงานจะได้ไม่กังวลทั้งเรื่องตึกถล่มและดินสไลด์ หากเรากำจัดปัญหาด้านบนไปก่อน เชื่อว่าการทำงานจะปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น

ทั้งนี้ เสาเข็มที่หักเกิดจากการสไลด์ของดิน ไม่ได้เกิดจากทำงานที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำให้มั่นคงมากขึ้นด้วย ไม่ได้ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนหรือเสียหายเพิ่มขึ้น

"สิ่งที่เราพยายามทำตอนแรกคือ เพื่อกู้เอาถนนกลับมา เรื่องการรื้อถอนหรือไม่ในตอนนั้นต้องประเมินอีกครั้ง เพราะ สน.สามเสน เป็นอาคารใหม่ แต่สถานการณ์ขณะนี้ปรากฏว่าอาคารเกิดความเสียหายเพิ่มเติม และมีโอกาสพังถล่มได้ทุกเวลา จึงต้องมีการรื้อถอน ซึ่งโอกาสรื้อถอนทั้งตึกมีความเป็นไปได้สูงเนื่องจากเป็นอาคารใหม่และมีความเชื่อมต่อเนื่องทั้งตึก เชื่อว่าหากแก้ไขเฉพาะจุดอาจเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยงบประมาณก่อสร้างตึกอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายจะมีการหารืออีกครั้ง ซึ่งเป็นผู้รับจ้างของ รฟม." ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

เตรียมรื้ออาคาร สน.สามเสน เหตุไม่ปลอดภัย เลื่อนเปิดจราจรไม่มีกำหนด

 

สำหรับการรื้อถอนอาคาร จะทยอยรื้อจากฝั่งขวาสุดที่เป็นจุดที่เสาขาดก่อน และต้องทำด้วยความระมัดระวัง โดยระบบการรื้อถอนคาดว่าจะใช้เครื่องจักรคล้ายแขนหุ่นยนต์ไปตัด และยกวัสดุขึ้นรถเทรลเลอร์และขนออกเลย ไม่มีการกองทับลงในหลุม จากนี้จะมีการวางแผนและบ่ายนี้จะเริ่มดำเนินการได้ โดยสรุปมาตรการดำเนินการจากนี้คือ 

  1. นำรถในพื้นที่อาคารออกให้หมดเพื่อลดความเสียหาย
  2. เริ่มรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน
  3. เสริมความมั่นคงพื้นที่ทำงาน
  4. ค้ำยันใต้ดินเพิ่ม
  5. ตรวจอาคารแฟลตตำรวจ (ข้างเคียง) เพิ่มเติม
  6. ดูแลโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งไม่ต้องกังวลเพราะมีบุคลากรเฝ้าระวังอยู่ตลอด ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในการดูแล

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ คาดการณ์ว่าการรื้อถอนจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ เพราะเราไม่ได้เร่ง แต่สามารถทำควบคู่กันได้ เมื่อเรารื้อถอนไปถึงจุดหนึ่งที่น้ำหนักตัวอาคารไม่เป็นอันตรายแล้ว การทำงานในหลุมยุบก็สามารถดำเนินการคู่ขนานได้ต่อ สำหรับอุปสรรค ด้านผลกระทบจากฝนตกก็มีผลกระทบได้ เพราะฝนจะชะล้างหน้าดินทำให้มีการสไลด์มากขึ้น และต้องดูระดับน้ำในหลุม ซึ่งต้องให้ทาง รฟม. และผู้รับเหมา เป็นผู้ควบคุมว่าให้สูบน้ำตอนไหนและแจ้งให้ทาง กทม. ดำเนินการ แต่ก็ไม่เป็นปัญหากับการรื้อถอน อีกด้านคือ มีท่อประปาที่อยู่ถัดไปไม่ไกลบริเวณสี่แยกฝั่งวชิรพยาบาล ซึ่งได้แจ้งผู้รับเหมาแล้วให้ระวัง

ส่วนห้องแถวบริเวณหัวมุมถนน ประเมินแล้วยังไม่มีอะไร ปัจจุบันยังไม่ให้กลับเข้ามาอาศัยและได้ให้ที่พักชั่วคราวอยู่ รวมถึงบ้านเรือนใกล้เคียงได้ทำการเฝ้าระวังตลอด หลังไหนที่มีความเสี่ยงก็ให้ย้ายออกไปหมดแล้ว และได้ขยายเวลาการกลับเข้ามาในพื้นที่ไปก่อน เช่นเดียวกับ สน.สามเสน ที่ต้องเช่าที่ทำการชั่วคราว โดย รฟม. และผู้รับจ้างเป็นผู้รับผิดชอบดูแลผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่ออีกว่า จากเหตุการณ์นี้ทำให้การเปิดถนนสามเสนอาจมีความล่าช้าขึ้น เป็นหลังวันที่ 9 ต.ค. 68 แต่ปัจจุบันการจราจรบริเวณนี้ยังไม่วิกฤต เพราะโรงเรียนยังปิดเทอมอยู่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาลเปิดให้บริการตามปกติ การเปิดถนนเร็วหรือช้ายังไม่มีผลกระทบมาก สุดท้ายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของการทำงานและความมั่นคงในระยะยาวเป็นหลัก ไม่อยากให้ทำไม่ดีเร่งเปิดถนนแล้วต้องกลับมารื้อทำใหม่ โดยขณะนี้ถมหลุมยุบได้ประมาณ 2,000 ลบ.ม. ต่อวัน ซึ่งตอนนี้ขาดอีกประมาณ 5,000 ลบ.ม. หากกำจัดอุปสรรคได้ก็ใช้เวลาถมไม่เกิน 3 วัน

"จากที่เคยคาดการณ์ว่าอาคาร สน.สามเสน จะไม่พังและอยู่ได้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของดินต่อเนื่อง ทำให้เสาเข็มไม่มีดินรองรับ จึงส่งผลต่อเนื่องกับอาคาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากดินยุบช่วงแรก ซึ่งไม่มีใครคาดคิด ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ส่วนเรื่องอาคารเราคิดไว้แล้วว่าถึงแม้เรากู้อาคารได้และซ่อมแซมถนนเสร็จ สุดท้ายแล้วโอกาสรื้อถอนก็มีสูงอยู่ดี" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ด้าน นายกิตติกร กล่าวว่า สำหรับการสืบสวนหาสาเหตุถนนทรุดตัวครั้งนี้ คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น กำลังเตรียมการรวบรวมข้อมูลและหาข้อสรุป ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงควบคุมความเสียหายไม่ให้ขยายวงกว้างก่อน และคืนพื้นที่ให้กับประชาชนโดยเร็ว และเนื่องจากพื้นที่ที่ต้องหาข้อเท็จจริงถึงเหตุที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ใต้ดิน ทุกอย่างจึงต้องนิ่งก่อน จากนั้นการลงไปกู้สถานการณ์ข้างล่างก็จะได้ข้อมูลมาประกอบว่าเกิดอะไรขึ้น

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเสริมว่า ข้อสรุปของสาเหตุถนนทรุดตัวครั้งนี้ เราอย่าเพิ่งเร่งสรุป เพราะสรุปแล้วเปลี่ยนแปลงยาก เก็บข้อมูลให้ละเอียดและรอบคอบ เพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นบทเรียนในอนาคตด้วย

เตรียมรื้ออาคาร สน.สามเสน เหตุไม่ปลอดภัย เลื่อนเปิดจราจรไม่มีกำหนด

เตรียมรื้ออาคาร สน.สามเสน เหตุไม่ปลอดภัย เลื่อนเปิดจราจรไม่มีกำหนด

เตรียมรื้ออาคาร สน.สามเสน เหตุไม่ปลอดภัย เลื่อนเปิดจราจรไม่มีกำหนด

เตรียมรื้ออาคาร สน.สามเสน เหตุไม่ปลอดภัย เลื่อนเปิดจราจรไม่มีกำหนด