น้ำน่านวิกฤต! สชป.3 สั่งหน่วงน้ำทั่วพื้นที่ ลดผลกระทบท้ายน้ำ

ชลประทานที่ 3 เร่ง "ตัดยอดน้ำ" แม่น้ำน่านที่วิกฤตถึง 1,488 ลบ.ม./วินาที โดยสั่ง หน่วงน้ำ และผันเข้าทุ่งเกษตร เพื่อกู้วิกฤตพื้นที่ท้ายน้ำ พิษณุโลก-พิจิตร ตลอด 24 ชม.
สำนักงานชลประทานที่ 3 (สชป.3) ได้ประกาศยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขาอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักในจังหวัดอุตรดิตถ์และพิษณุโลก อันเป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "บัวลอย" ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงและเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ท้ายน้ำ เช่น อำเภอเมืองพิษณุโลก และพื้นที่ลุ่มในจังหวัดพิจิตร
นายชลเทพ ทาตรี รองผู้อำนวยการ สชป.3 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในทุกโครงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำอย่างเต็มที่ จัดเวรเฝ้าระวัง และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างทันท่วงที และลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำท้ายน้ำ
มาตรการเร่งด่วนเพื่อ "ตัดยอดน้ำ" แม่น้ำน่าน
นายชวลิต สุราราช ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สชป.3 เปิดเผยว่า จากการวัดปริมาณน้ำล่าสุดที่สถานีวัดน้ำ N.60 อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ พบอัตราการไหลผ่านสูงถึง 1,488 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ข้อมูล 1 ต.ค. 68 เวลา 20.00 น.) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สชป.3 จึงได้หารือร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 4 และโครงการที่เกี่ยวข้อง เพื่อออกมาตรการเร่งด่วนในการบริหารจัดการน้ำ ดังนี้:
ปรับลดและงดระบายน้ำเข้าแม่น้ำน่านโดยตรง
- ลดการระบายน้ำลงคลองผันน้ำยมน่าน
- งดการระบายน้ำของคลอง DR15.8 และ DR2.8 ชั่วคราว เพื่อชะลอการไหลของน้ำเข้าสู่แม่น้ำน่าน
เพิ่มการระบายน้ำและตัดยอดน้ำในระบบอื่น
- เพิ่มการระบายน้ำลงคลองยมสายเก่า
- เร่งส่งน้ำเข้าสู่คลอง C1 เพื่อช่วยตัดยอดน้ำ ไม่ให้ไหลเข้าสู่แม่น้ำน่านทั้งหมด
หน่วงน้ำและควบคุมการระบาย
- สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ ได้แก่ คบ.ผาจุก, คบ.นเรศวร, คบ.แควน้อย, และ คบ.พลายชุมพล ปรับแผนบริหารจัดการเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อ "หน่วงน้ำ" ตามศักยภาพ และควบคุมการระบายให้เหมาะสม
รับน้ำเข้าทุ่งเกษตรกรรม
- พิจารณารับน้ำเข้าสู่ทุ่งหรือพื้นที่เกษตรกรรมที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เพื่อลดผลกระทบน้ำล้นตลิ่งและชะลอปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่ด้านท้ายน้ำ
มาตรการทั้งหมดนี้จะถูกเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วง 2–3 วันข้างหน้า หรือจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
แจ้งเตือนประชาชนและช่องทางติดต่อฉุกเฉิน
สชป.3 ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการเร่งประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการแจ้งเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ สามารถติดต่อได้ที่:
- สายด่วนกรมชลประทาน 1460 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
- โทรศัพท์: 055-333-014 (ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สชป.3)







