ถนนทรุดตัว บางคอแหลม ผู้ว่าฯ กทม. ยันไม่กระทบ ปชช. ซ่อมเสร็จใน 3 วัน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดตรวจสอบถนนทรุดตัว เขตบางคอแหลม ยืนยันไม่กระทบประชาชน พร้อมหาสาเหตุให้ได้ ซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
วันนี้ (1 ต.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุถนนทรุดตัว บริเวณด้านหน้าการไฟฟ้ายานนาวา ถนนตก เขตบางคอแหลม โดยมี นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักการโยธา นางสาวอรชา มุ้ยเสมา ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม ผู้บริหารสำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
จากการตรวจสอบของสำนักงานเขตบางคอแหลม พบว่า จุดที่เกิดการทรุดตัวเป็นโพรงดินใต้พื้นถนนคอนกรีต ความลึกประมาณ 1 - 2 เมตร ถนนเกิดการแอ่นตัว พื้นที่เกิดเหตุมีความยาวประมาณ 26 เมตร ความกว้างประมาณ 9 เมตร มีกำแพงรั้วของเอกชนได้รับความเสียหายความยาวประมาณ 20 เมตร โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในโครงการก่อสร้างท่อร้อยสายใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้มีผลกระทบกับประชาชนและการจราจรมาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณปลายถนนเจริญกรุง โดยสภาพถนนมีการเอียงตัว ด้านล่างของถนนมีการไหลของดิน และจุดนี้น่าจะมีปัญหามาก่อนหน้านี้แล้ว ประมาณ 1 ปีกว่า และได้มีการดำเนินการซ่อมแล้ว แต่วันนี้ก็มีการทรุดตัวอีกครั้ง ขณะนี้ได้มีการปิดการจราจรไป 1 เลน
ทั้งนี้ ใต้ถนนมีท่อของการไฟฟ้า สภาพยังคงแข็งแรงไม่มีปัญหา และมีท่อระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีดินไหลเข้าไปในท่อระบายน้ำหรือไม่ จะมีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า จะมีการนำเครื่องมือมาสแกนโพรงเพื่อตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ย้ำว่าไม่ต้องห่วง ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก จุดทรุดตัวเป็นช่วงปลายถนน สั่งการให้สำนักการระบายน้ำต้องระวังเรื่องการระบายน้ำและวางแผนการบล็อกน้ำให้ดี เนื่องจากกลัวจะไปท่วมเจริญกรุงแทน ตั้งเครื่องสูบน้ำให้พร้อม ต้องรื้อพร้อมหาสาเหตุให้ได้ และดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
ทั้งนี้ สำนักงานเขตบางคอแหลม ได้ประสานสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการบล็อกกั้นแนวท่อระบายน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลไปยังพื้นที่ทรุดตัวของถนนเพิ่มเติม ด้านสำนักการโยธาและการไฟฟ้า จะช่วยกันสแกนพื้นที่และกำหนดขอบเขตการซ่อมต่อไป ทั้งนี้ การประปานครหลวงจะมีการปิดท่อหัว-ท้าย เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ การประปานครหลวงยืนยันว่าไม่กระทบประชาชน น้ำยังคงไหลตามปกติ






