เปิดศูนย์กลางความรู้ไซเบอร์ ปิดช่องว่างภัยคุกคามไซเบอร์

ตร.ไซเบอร์ จับมือ มจธ. เปิดตัว "ศูนย์กลางความรู้ไซเบอร์" แห่งแรกของประเทศ ผลักดันไทยสู่ Regional Hub ปิดช่องว่างภัยคุกคามไซเบอร์
วันนี้ (29 ก.ย. 68) ณ อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ (LX) ชั้น 10 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้มีการแถลงข่าวครั้งสำคัญ โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. และ ผศ.ดร.ประเสริฐ คันธมานนท์ รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายบริหาร มจธ. ได้ร่วมกันเปิดตัว “Cybersecurity, Cyber Crime Prevention & Digital Forensics Hub of Knowledge” หรือ ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์และการพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัล อย่างเป็นทางการ
การจัดตั้งศูนย์ฯ นี้มีเป้าหมายหลักเพื่อ ยกระดับความรู้และทักษะด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์ระดับภูมิภาค (Regional Hub) ในอนาคต
เชื่อม "แฟ้มคดีสู่ห้องเรียน" สร้างบุคลากรไซเบอร์มืออาชีพ
ผศ.ดร.ประเสริฐ คันธมานนท์ เปิดเผยว่า ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้จะทำหน้าที่เป็น "ศูนย์กลางความรู้" ที่เชื่อมโยงทั้ง นโยบาย การศึกษา งานวิจัย และการปฏิบัติจริง เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ โดยจะเน้นการพัฒนาหลักสูตรระยะสั้น (Non-Degree/Microcredentials) และระบบสะสมหน่วยกิต (Credit Bank) ผ่านแพลตฟอร์ม oneKMUTT/OBEM เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการเรียนรู้
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง Cybersecurity & AI Forensics Innovation Center ซึ่งเป็นห้องทดลองและนวัตกรรมด้านไซเบอร์และ AI เพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ๆ จากโจทย์ปัญหาจริงของประเทศ และต่อยอดสู่การรับรองวิชาชีพระดับสากล (Certification)
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ได้กล่าวเสริมถึงจุดเด่นของความร่วมมือนี้ว่า จะช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการปฏิบัติการสืบสวนและพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลของตำรวจไซเบอร์ "จากแฟ้มคดีสู่ห้องเรียน" โดยตรง เพื่อให้เยาวชน บุคลากรภาครัฐ และเอกชน ได้เรียนรู้ทักษะสำคัญที่ตลาดต้องการ เช่น
- Incident Response (การรับมือเหตุการณ์โจมตีออนไลน์)
- Threat Intelligence (การวิเคราะห์ข้อมูลภัยคุกคาม)
- Digital Forensics (การสืบสวนและพิสูจน์หลักฐานดิจิทัล)
ความร่วมมือนี้ยังจะช่วยสร้าง มาตรฐานกลางของข้อมูลและเครื่องมือ ที่หน่วยงานต่าง ๆ สามารถใช้ร่วมกันได้ในอนาคตอีกด้วย
Roadmap 3 ปี สู่ศูนย์ระดับภูมิภาค
โครงการได้มีการวาง Roadmap 3 ปี เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้:
- ปีที่ 1 (2568–2569): วางโครงสร้างคณะทำงานร่วม มจธ.–บช.สอท., พัฒนาหลักสูตรต้นแบบ, และออกแบบศูนย์นวัตกรรม
- ปีที่ 2 (2569–2570): เปิดใช้ศูนย์นวัตกรรม (ทดลอง), เปิดสอนหลักสูตรจริง, เชื่อมผลงานจาก Cyber Warrior Hackathon 2025 เข้าสู่การทดลองใช้, และขยายความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ
- ปีที่ 3 (2570–2571): ประเมินผลการดำเนินงาน, ขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังนักเรียนอาชีวะ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ, จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย, และวางระบบรับรองวิชาชีพ เพื่อพัฒนาเป็น "ศูนย์ระดับภูมิภาค"
โครงการนี้ต่อยอดความสำเร็จจากกิจกรรม Cyber Warrior Hackathon 2025 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 700 คน และสร้างผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่นกว่า 30 ทีม นับเป็นก้าวแรกของการสร้างเครือข่ายบุคลากรดิจิทัลและต้นแบบโซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ
กิจกรรมไฮไลต์และพันธมิตรระดับโลก
สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ในวันเปิดตัว (29 ก.ย. 68) มีการจัดเวิร์กชอป 2 หัวข้อที่น่าสนใจ ได้แก่ "จากแฟ้มคดีสู่ห้องเรียน" โดยตำรวจมือปราบโจรไซเบอร์ตัวจริงจาก บช.สอท. และ "Cyber Investigation: Incident Response ภาคปฏิบัติ” โดย ผู้เชี่ยวชาญจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มจธ.
นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังมีแผนที่จะผลักดันการสร้างฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศกลางร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศชั้นนำ เช่น ZHAW, ETE Paris, ETH Zurich และ NCSC Switzerland เพื่อยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล และทำให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มแข็ง และเชื่อมโยงโลกวิชาการเข้ากับโลกการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ







