'พายุบัวลอย' สลายตัว แม้ไม่เข้าไทย แต่ไทยเจอฝนถล่ม 29-30 ก.ย. 68

'พายุบัวลอย' สลายตัว แม้ไม่เข้าไทย แต่ไทยเจอฝนถล่ม 29-30 ก.ย. 68

กรมอุตุฯ ประกาศ ฉบับที่ 11 "พายุบัวลอย" ไม่เข้าไทย แต่ทำฝนถล่มหนัก ช่วง 29-30 ก.ย. 68 เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน ทะเลอันดามัน-อ่าวไทย คลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กงดออกฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนประชาชนทั่วประเทศให้เฝ้าระวังอันตรายจาก ฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ในช่วงวันที่ 29-30 กันยายน 2568 แม้ว่า พายุโซนร้อน กำลังแรง "บัวลอย" (BUALOI) จะไม่ได้เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง

ตามประกาศฉบับที่ 11 (272/2568) ระบุว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (29 ก.ย. 68) "พายุบัวลอย" มีศูนย์กลางอยู่ในแขวงบอลิคำไซ ประเทศลาว โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่าพายุนี้จะ อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว เป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนในช่วงวันที่ 29 – 30 ก.ย. 68 และ ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

อิทธิพลของพายุ "บัวลอย" ต่อประเทศไทย

แม้พายุจะไม่เข้าไทย แต่จากอิทธิพลของพายุและร่องมรสุมกำลังแรงที่พาดผ่าน ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้:

  • ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีลมแรง
  • มี ฝนตกหนักมากบางแห่ง ใน ภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแนวขอบของพายุ รวมถึงพื้นที่ ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นด้านรับมรสุม

ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะบริเวณลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน
 

การเตือนภัยทางทะเล

คลื่นลมบริเวณ ทะเลอันดามันตอนบน และ อ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมี คลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วน ทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรมอุตุฯ เตือน ชาวเรือ ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะ เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568

ประชาชนสามารถติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดได้ทาง เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือโทร 0-2399-4012-13 และสายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง