ชาวบ้านน้ำยืน ผวา กัมพูชายิงยั่วยุ ช่องอานม้า เร่งอพยพออกจากพื้นที่

ชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลราชธานี หวั่นสถานการณ์ชายแดนรุนแรงอีกครั้ง เร่งเก็บข้าวของใส่ท้ายรถอพยพออกจากพื้นที่ ด้าน กองทัพภาคที่ 2 แถลงซัดกัมพูชา ยิงยั่วยุฝ่ายไทยที่ช่องอานม้า
วันนี้ (27 กันยายน 2568) เวลา 16.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบางส่วนในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ต่างเก็บข้าวของใช้จำเป็นเร่งอพยพออกจากบ้านเพื่อไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากรู้สึกกังวลว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะกลับมารุนแรงอีกครั้ง หลังมีข่าวว่ากัมพูชาพยายามยิงยั่วยุฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่องที่บริเวณช่องอานม้า
โดยชาวบ้านยังบอกอีกว่า ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอยู่แบบนี้ ก็อย่าไปเชื่อใจ เพราะกัมพูไว้ใจไม่ได้ จึงขอย้ายออกไปพื้นที่ที่ปลอดภัยดีกว่า
ขณะที่ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด มีรายงานว่าวันนี้ฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามายังฝั่งไทยบริเวณช่องอานม้า ซึ่งเบื้องต้นไทยไม่ได้ยิงตอบโต้
กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เผยกัมพูชายิงยั่วยุบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง บริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ของฝ่ายไทย จากบริเวณ เนิน 677 มายัง เนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด
ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชาว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชาในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT เดินทางเข้าพื้นที่ โดยในอดีตกัมพูชามักใช้กลยุทธ์ลักษณะนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในครั้งนี้ก็ยังคงดำเนินการในรูปแบบเดียวกัน
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชาได้มีการตั้งกล้องบันทึกภาพไว้ล่วงหน้า บริเวณฐานปฏิบัติการทางทิศใต้ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะนำเหตุการณ์ไปใช้เผยแพร่ในเวทีนานาชาติ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าฝ่ายไทยเป็นผู้ริเริ่มการปะทะ ทั้งที่แท้จริงแล้ว เป็นการกระทำเชิงยุทธวิธีที่ไม่เหมาะสมของฝ่ายกัมพูชาเอง การใช้อาวุธยิงโจมตีในห้วงเวลากลางวัน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางยุทธวิธี แสดงถึงเจตนาชัดเจนที่จะยั่วยุให้ฝ่ายไทยตอบโต้ หากฝ่ายไทยดำเนินการตอบสนองก็เสี่ยงที่จะถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และถูกขยายผลในเวทีระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยยังคงควบคุมสถานการณ์ด้วยความสุขุม รอบคอบ และหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะตกเป็นประโยชน์ต่อการโฆษณาชวนเชื่อของกัมพูชา แต่ขอยืนยันว่ากองทัพไทยพร้อมปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติอย่างเต็มกำลัง ควบคู่ไปกับการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
ในขณะเดียวกัน กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนลงพื้นที่เพื่อช่วยประสานงาน อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ากองทัพจะไม่ทอดทิ้งและพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์
กองทัพภาคที่ 2 จะติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร โดยติดตามเฉพาะช่องทางอย่างเป็นทางการของหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อป้องกันการเกิดความเข้าใจผิดหรือการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ภาพ โสภน สุเสนา







