อาการล่าสุด "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่า พลัดหลง ยังอ่อนแรง ลุกเดินไม่ได้

อาการล่าสุด "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่า พลัดหลง ยังอ่อนแรง ลุกเดินไม่ได้

เผยอาการล่าสุด "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่า พลัดหลง พบมีอาการอ่อนแรง ไม่สามารถลุกเดินได้ ทีมสัตวแพทย์ เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ และหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รายงานความคืบหน้าการดูแล "ลูกช้างป่า" พลัดหลง เพศเมีย อายุประมาณ 3 วัน ชื่อ "ข้าวต้ม" ซึ่งได้ถูกเคลื่อนย้ายมาถึงศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568

อาการล่าสุด "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่า พลัดหลง ยังอ่อนแรง ลุกเดินไม่ได้

 

​ทีมสัตวแพทย์จาก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ซึ่งประกอบด้วย สพ.ญ.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ และ สพ.ญ.กานต์พิชชา หาญอาษา นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายลูกช้างป่าตัวนี้จากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู มายังศูนย์ฯ บึงฉวาก

อาการล่าสุด "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่า พลัดหลง ยังอ่อนแรง ลุกเดินไม่ได้

 

​จากการประเมินอาการเบื้องต้นพบว่า ลูกช้างป่ามีอาการอ่อนแรง ไม่สามารถลุกเดินได้ และแสดงอาการเจ็บปวดบริเวณสะโพก ขาหลัง และหาง นอกจากนี้ยังพบการอักเสบที่สะดือและอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นอาการที่พบตั้งแต่แรกที่พบลูกช้าง สัตวแพทย์จึงได้ให้ยาเพื่อลดอาการปวดและอักเสบทันที

​ปัจจุบันลูกช้างสามารถกินน้ำต้มข้าวผสมนมผงได้ และมีการขับถ่ายเป็นเนื้อครีม แต่ยังไม่พบการปัสสาวะในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก รวมถึงทีมสัตวแพทย์กำลังเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ​โดยในวันนี้ (23 กันยายน 2568) ทีมสัตวแพทย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จะเดินทางเข้ามาร่วมตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาเพิ่มเติมต่อไป

อาการล่าสุด "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่า พลัดหลง ยังอ่อนแรง ลุกเดินไม่ได้

อาการล่าสุด "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่า พลัดหลง ยังอ่อนแรง ลุกเดินไม่ได้