กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมปรับสถานะนิติบุคคล 9,343 ราย เป็น ‘ร้าง’

ล่าสุด “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” เตรียมปรับสถานะนิติบุคคล 9,343 ราย เป็น ‘ร้าง’ เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินต่อเนื่อง 3 ปี หรือเลิกกิจการแล้วแต่ไม่ดำเนินการชำระบัญชี
“กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” เตรียมปรับสถานะนิติบุคคล 9,343 ราย เป็น ‘ร้าง’ เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินต่อเนื่อง 3 ปี หรือเลิกกิจการแล้วแต่ไม่ดำเนินการชำระบัญชี
โดย “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ประกาศขีดชื่อนิติบุคคลในกรุงเทพฯ จำนวน 9,343 รายออกจากทะเบียน เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินต่อเนื่อง 3 ปี หรือเลิกกิจการแล้วแต่ไม่ดำเนินการชำระบัญชี โดยเปิดโอกาสให้ยื่นคำร้องชี้แจง ภายใน 90 วัน หากพ้นกำหนดจะถูกเพิกถอนและสิ้นสภาพนิติบุคคลทันที ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานะนิติบุคคลได้ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน DBD e-Service ตลอด 24 ชั่วโมง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร 2 ฉบับ (ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 และ 1 กันยายน 2568) เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียนจำนวน 9,343 ราย
โดยเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร 2 กรณี คือ
1. ไม่ส่งงบการเงินติดต่อกันนาน 3 ปี นับจากปีปัจจุบันย้อนหลังลงไป ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าขายหรือประกอบการงานแล้ว มีจำนวน 7,032 ราย
2. จดทะเบียนเลิก ห้างหุ้นส่วนบริษัทแล้วแต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่ หรือไม่ได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่เลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท มีอยู่จำนวน 2,311 ราย
สำหรับนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้เร่งตรวจสอบ ก่อนดำเนินการแบบเดียวกัน
ขณะนี้กรมฯ ได้ประกาศรายชื่อนิติบุคคลที่จะทำการขีดชื่อผ่านทางเว็บไซต์ dbd.go.th หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ เลือกบริการข้อมูล เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และเลือกประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน ทั้งนี้ นิติบุคคล ที่มีรายชื่อตามประกาศสามารถยื่นคำร้องชี้แจงต่อนายทะเบียนได้ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ หากพ้นระยะเวลาที่กำหนด จะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคลทันที เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น
เมื่อนิติบุคคลถูกเปลี่ยนเป็นสถานะร้างแล้ว จะไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆ ได้อีกต่อไป แต่ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นยังคงมีอยู่และพึงเรียกบังคับได้ อย่างไรก็ตาม นิติบุคคลอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน ดังนั้น กรมฯ ขอกำชับให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อร่วมสร้างธุรกิจไทยให้มีความน่าเชื่อถือและมีข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องครบถ้วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนนิติบุคคลให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อลดภาระในการดำเนินธุรกิจทั้งการเสียเวลา ค่าใช้จ่าย และค่าปรับต่างๆ เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีด้านความโปร่งใสในการทำธุรกิจของประเทศไทย รวมไปถึงการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลที่ไม่มีสถานะในการทำธุรกิจแล้วให้เป็นปัจจุบันทุกปี จะช่วยตัดวงจรของการนำข้อมูลนิติบุคคลที่ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจ หรือนำชื่อไปแอบอ้างหลอกลวงประชาชนของกลุ่มมิจฉาชีพ
ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะของนิติบุคคลด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมงทางเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th เลือกหัวข้อบริการออนไลน์ และเลือก DBD Datawarehouse+ หรือจะตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน DBD e-Service ผ่านโทรศัพท์มือถือก็ได้เช่นเดียวกัน การันตีความง่าย สะดวก รวดเร็ว รู้ผลทันทีและไม่มีค่าใช้จ่าย






