สทนช. เตรียมรับมือฝนตก จากพายุรากาซา ป้องกันน้ำท่วมท้ายเขื่อน

สทนช. เร่งติดตามสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา เตรียมพร้อมรับมืออิทธิพลพายุ “รากาซา” เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อนและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
วันนี้ (21 ก.ย. 68) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อรับมือกับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “รากาซา” (Ragasa) ที่คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักระหว่างวันที่ 22 – 30 ก.ย. 68 โดยมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ
นายไพฑูรย์ เปิดเผยว่า แม้พายุรากาซาจะไม่เข้าประเทศไทยโดยตรง แต่จะส่งผลให้ร่องมรสุมพาดผ่านพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ตนในฐานะประธานคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) พื้นที่ภาคกลาง จึงได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด
ณ เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีการหารือร่วมกันเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันและวางแผนรับมือ โดยสถานการณ์น้ำในวันนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่จังหวัดนครสวรรค์ (สถานี C2) อยู่ที่ 2,202 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) เมื่อรวมกับน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและน้ำฝนในพื้นที่ตอนท้าย ทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาสูงถึง 2,555 ลบ.ม./วินาที ซึ่งมีการระบายน้ำท้ายเขื่อนในอัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที โดยแบ่งระบายออกคลองชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 355 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ การระบายน้ำในอัตราดังกล่าวส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำในจังหวัดชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี และพระนครศรีอยุธยา มีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ โดยข้อมูลที่ได้จากการสำรวจในวันนี้จะนำเข้าสู่การประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ย. 68) เพื่อใช้ประกอบการวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป





