'ทุ่งบางระกำ' เก็บน้ำเกือบเต็ม เฝ้าระวังฝนตกหนัก ปลายเดือน ก.ย.

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน รายงานว่า ทุ่งบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นที่หน่วงน้ำสำคัญ ได้กักเก็บน้ำเกือบเต็มความจุแล้ว โดยล่าสุดกักเก็บน้ำได้ 397 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 99% ของความจุทั้งหมด 400 ล้านลูกบาศก์เมตร

การกักเก็บน้ำในพื้นที่นี้จะช่วยบรรเทาปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างได้เป็นอย่างดี

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ

ภาพรวมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ที่บริหารจัดการได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

• อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ : มีปริมาณน้ำรวม 59,804 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 78% ของความจุอ่างทั้งหมด ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 16,700 ล้านลูกบาศก์เมตร
• 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา : ประกอบด้วยเขื่อนภูมิพล, เขื่อนสิริกิติ์, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวม 20,548 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 83% ของความจุ ยังรองรับน้ำได้อีกกว่า 4,300 ล้านลูกบาศก์เมตร
• อ่างเก็บน้ำที่น้ำเกินเกณฑ์ควบคุม : มี 9 แห่งที่กรมชลประทานและ กฟผ. กำลังเฝ้าระวังและบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน, เขื่อนแม่มอก, เขื่อนห้วยหลวง, เขื่อนน้ำอูน, เขื่อนน้ำพุง, เขื่อนจุฬาภรณ์, เขื่อนอุบลรัตน์, เขื่อนบางพระ และเขื่อนนฤบดินทรจินดา

การคาดการณ์สภาพอากาศและข้อควรระวัง

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 21-27 กันยายนนี้ ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก

ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม ควรเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ยังมีการติดตาม พายุไต้ฝุ่น รากาซา (RAGASA) ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งจะทำให้มรสุมในประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น และอาจส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นตามมา