20 กันยายน "วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ"

20 กันยายน "วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ" ย้ำร่วมกันดูแลรักษาแหล่งน้ำอันเป็นองค์ประกอบสำคัญของวิถีชีวิตคนไทย
KEY
POINTS
- วันที่ 20 กันยายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น "วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ"
- มีที่มาจากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จประพาสทางชลมารคเพื่อตรวจสภาพคลองแสนแสบเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2537
- แม่น้ำ คู คลอง มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เศรษฐกิจ และเป็นแหล่งหล่อหลอมวัฒนธรรมประเพณีของไทย
- วันดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาแหล่งน้ำ เช่น ไม่ทิ้งขยะ และร่วมกิจกรรมฟื้นฟูสภาพแวดล้อม
วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี เป็น "วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ" สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2537 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงเสด็จประพาสทางชลมารค เพื่อตรวจสภาพคลองแสนแสบ และเยี่ยมประชาชนสองฝั่งคลองจากกรุงเทพมหานครถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นระยะทางกว่า 72 กิโลเมตร ซึ่งยังความปลาบปลื้มปิติแก่พสกนิกรตลอดเส้นทางอย่างถ้วนหน้า เมื่อถึงคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554 จึงได้มีมติกำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ
แม่น้ำ คู และคลอง มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ธรรมชาติ และสัตว์ป่าที่ต้องพึ่งพาน้ำในการดำรงชีวิต อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งด้านการระบายน้ำ ป้องกันน้ำท่วม การเกษตร และการขนส่ง นอกจากนี้แหล่งน้ำเหล่านี้ยังเป็นพื้นที่ที่หล่อหลอมวัฒนธรรมและประเพณีของชุมชนริมฝั่งน้ำ เช่น การแข่งเรือ ลอยกระทง และตลาดน้ำ อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การรักษาไว้อีกด้วย
วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ จึงเป็นหมุดหมายอันดีที่จะพาทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาแหล่งน้ำอันเป็นองค์ประกอบสำคัญของวิถีชีวิตคนไทย โดยเริ่มต้นจากการไม่ทิ้งขยะลงคลอง ไม่บุกรุกทำลายพื้นที่ต้นน้ำเพื่อรักษาแหล่งน้ำไว้ และร่วมกิจกรรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม อาทิ เก็บขยะในแม่น้ำหรือลำคลอง เป็นต้น เพื่อให้แม่น้ำ คู คลอง ยังคงอยู่คู่กับคนไทยอย่างยั่งยืน
อ้างอิง : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , กรมทรัพยากรน้ำ







