พลิกโฉม 'เขื่อนเพชร' ทุ่มงบ 3.4 พันล้านบาท แก้ปัญหาน้ำท่วม-แล้ง

กรมชลประทาน เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 3,400 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบชลประทานและ"เขื่อนเพชร"ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีอย่างครอบคลุม ภายใต้โครงการพัฒนาที่มุ่งแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งที่เกิดขึ้นซ้ำซากมาอย่างยาวนาน

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ได้จัดประชุมชี้แจงแผนการปรับปรุงโครงการ โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ สื่อมวลชน และกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่เข้าร่วมรับฟัง ซึ่งข้อมูลระบุว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากความจำเป็นเร่งด่วน เนื่องจาก เขื่อนเพชร ซึ่งใช้งานมานานถึง 74 ปี อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ไม่สามารถรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นได้ และพื้นที่ท้ายน้ำก็ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี
 

แผนการปรับปรุง 5 ปี ครอบคลุมหลายมิติ

แผนการปรับปรุงโครงการจะใช้งบประมาณรวม 3,459 ล้านบาท ภายใต้ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ซึ่งประกอบด้วยแผนงานหลักที่สำคัญ ได้แก่:

• ซ่อมแซมและก่อสร้างโครงสร้างใหม่ : ปรับปรุงคลองส่งน้ำเดิม 33 คลอง ซ่อมแซมอาคารและท่อลอด รวมถึงสะพานต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำ
• เพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ : ยกระดับการกักเก็บน้ำของเขื่อนเพชร และจะมีการก่อสร้างฝายพับได้ในแม่น้ำเพชรบุรี 4 แห่ง รวมถึงฝายในคลองระบายน้ำอีก 24 แห่ง
• พัฒนาเทคโนโลยี : ปรับปรุงระบบเตือนภัย ระบบโทรมาตร และระบบควบคุมประตูน้ำระยะไกล เพื่อการบริหารจัดการน้ำที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
• ส่งเสริมองค์กรผู้ใช้น้ำ : จัดอบรมให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำและการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้น้ำได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด
   

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: เพิ่มน้ำใช้-ลดพื้นที่น้ำท่วม

นายสมสวัสดิ์ ฉายสินสอน ผอ.โครงการชลประทานเพชรบุรี เปิดเผยว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วย เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ถึง 11.73 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์ในฤดูแล้งเพิ่มขึ้นจากเดิม 100,000 ไร่ เป็น 133,421 ไร่ อีกทั้งยังช่วย ลดพื้นที่น้ำท่วมลงได้ถึง 59,478 ไร่ หรือลดลง 37.5% ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นในรายละเอียดโครงการทั้งหมดอีกครั้ง ในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี