วิกฤตน้ำลุ่มเจ้าพระยา ปรับแผนระบายน้ำ รับมือฝน จับตา 4 อ่างฯ หลัก

วิกฤตน้ำลุ่มเจ้าพระยา ปรับแผนระบายน้ำ รับมือฝน จับตา 4 อ่างฯ หลัก

สทนช. เร่งปรับแผนบริหารจัดการน้ำ รับมือฝนตกหนักต่อเนื่อง พร้อมจับตาปริมาณน้ำใน 4 อ่างฯ หลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่อยู่ในเกณฑ์สูง

วันนี้ (18 ก.ย. 68) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนและตอนกลางของประเทศไทย ทำให้หลายพื้นที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่อยู่ท้ายน้ำและริมตลิ่ง

เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน สทนช. ได้ประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้คงอัตราการระบายน้ำของ อ่างเก็บน้ำภูมิพล จังหวัดตาก ไว้ที่ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยควบคุมปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่ไปเพิ่มความรุนแรงของสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เดิม
 

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญ

สทนช. รายงานว่าปัจจุบันอ่างเก็บน้ำหลัก 4 แห่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์สูง ได้แก่

  • อ่างเก็บน้ำภูมิพล จ.ตาก : ปริมาณน้ำ 10,558 ล้าน ลบ.ม. (78.4% ของความจุ)
  • อ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ : ปริมาณน้ำ 8,357 ล้าน ลบ.ม. (88% ของความจุ)
  • อ่างเก็บน้ำแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก : ปริมาณน้ำ 777 ล้าน ลบ.ม. (83% ของความจุ)
  • อ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี : ปริมาณน้ำ 668 ล้าน ลบ.ม. (70% ของความจุ)

นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์อยู่ที่ 2,220 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เขื่อนเจ้าพระยายังคงต้องเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่องที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมทั้งแบ่งน้ำออกสู่คลองชลประทานทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก
 

มาตรการแก้ไขปัญหาและบรรเทาสถานการณ์

สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำและลดผลกระทบต่อประชาชน รวมถึง:

  • ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ
  • กำจัดวัชพืชและผักตบชวาที่กีดขวางทางน้ำ
  • เคลื่อนย้ายเรือสินค้าที่ขวางทางน้ำ
  • สำรวจความพร้อมของพื้นที่ลุ่มต่ำสำหรับใช้เป็นพื้นที่หน่วงน้ำ

ดร.สุรสีห์กล่าวว่า สทนช. จะปรับแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย. 2568) เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และลดผลกระทบต่อประชาชนโดยเร็วที่สุด