ปภ. เตือน 10 จว.ภาคกลางและ กทม. เฝ้าระวังน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา

ปภ. เตือน 10 จังหวัดภาคกลาง และ กทม. เฝ้าระวังระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูง กำชับ 4 จังหวัดพื้นที่เสี่ยง - อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และชัยนาท เตรียมรับมือ
วันนี้ (17 ก.ย. 68) เวลา 13.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น แจ้งกำชับ 4 จังหวัดพื้นที่เสี่ยง อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และชัยนาท จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ
รวมถึงแจ้งจังหวัดประสานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 ว่า คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,200 - 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี Ct.19 จังหวัดอุทัยธานีและลำน้ำสาขา อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 200 - 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ แบ่งรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 400 - 420 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากสถานการณ์ดังกล่าวจึงปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากเดิมไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได โดยปริมาณน้ำจะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.10 - 0.30 เมตร ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้
- จังหวัดอ่างทอง บริเวณคลองโผงเผง บริเวณอำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณคลองบางบาล และแม่น้ำน้อย บริเวณอำเภอเสนา และอำเภอผักไห่
- จังหวัดสิงห์บุรี บริเวณอำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภออินทร์บุรี และอำเภอพรหมบุรี
- จังหวัดชัยนาท บริเวณอำเภอสรรพยา
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ประสานจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือโดยสารสาธารณะ ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำและบริเวณจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประชาชน ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ทุกที่ ทุกเวลา






