ฉาวอีก เจ้าอาวาสวัดมั่วสีกา ชาวบ้านฮือล้อมจับคากุฏิกลางดึก อ้างมาถวายเห็ด

วงการผ้าเหลืองฉาวอีก "เจ้าอาวาสวัดมั่วสีกา" ชาวบ้านฮือล้อมจับคากุฏิกลางดึก อ้างมาถวายเห็ด เจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง ชี้ชัดอาบัติปาราชิกแล้ว
ฉาวคาผ้าเหลือง จากกรณีชาวบ้านจำนวนมากรวมตัวกันล้อมกุฏิ เจ้าอาวาสวัด โพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อคืนนี้ (16 ก.ย. 68) หลังพบมีหญิงวัยกลางคนย่องเข้าไปในกุฏิกลางดึก จนเกิดความวุ่นวายภายในวัดขึ้น ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าอาวาสได้ปฏิเสธว่าไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งใด ๆ กับสีกาคนดังกล่าว พร้อมอ้างว่าสีกาแค่นำเห็ดมาถวายเท่านั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (17 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. พระครูปัญญา มัชฌิมานุกูล รักษาการเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะประธานสอบอธิกรณ์ พร้อมด้วยพระครูวชิระคุณาธร เจ้าคณะตำบลเชียงเครือ รองประธานฯ เดินทางเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านรวมตัวกันล้อมกุฏิเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด หลังพบว่ามีหญิงย่องเข้าไปอยู่ภายในกุฏิพระยามวิกาล โดยมีนายสยามพัชร ทิพย์สอน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ นายวีระพงษ์ กันตันหา กำนันตำบลเชียงเครือ พร้อมคณะสงฆ์ ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านร่วมให้ข้อมูลและเป็นพยาน
พระครูปัญญา มัชฌิมานุกูล รักษาการเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะประธานสอบอธิกรณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการมาตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องดังกล่าว ตามที่มีกระแสข่าวในโลกโซเชียล และตามที่ได้รับรายงานจากพระ ผู้นำชุมชน รวมถึงชาวบ้าน ว่ามีหญิงสาวเข้าไปในกุฏิของเจ้าอาวาส ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ไม่พบตัวเจ้าอาวาสและไม่สามารถติดต่อให้มาร่วมประชุมชี้แจงได้ จึงต้องเข้าสอบถามและตรวจสอบพยานหลักฐานจากชาวบ้าน พระสงฆ์ และผู้นำชุมชนที่เป็นพยานและอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามจะต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย หากผลสอบมีพยานและตรวจสอบหลักฐานยืนยันได้ชัดเจนว่ามีผู้หญิงอยู่ในกุฏิเจ้าอาวาสจริง ตามพระธรรมวินัยจะต้องมีความผิดอาบัติ และเจ้าตัวไม่อยู่ก็ปาราชิกไปโดยปริยาย
ด้าน นายคำน้อย พานสถิตย์ ผู้ใหญ่บ้านแกเปะ ม.9 กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนในฐานะผู้นำชุมชนคนหนึ่งได้รับการร้องเรียนและรับทราบข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่มานานกว่า 3 ปีแล้ว ว่ามักจะมีผู้หญิงเข้าออกกุฏิของเจ้าอาวาสบ่อยครั้ง ทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งที่ผ่านมาเคยได้ว่ากล่าวตักเตือนทั้ง 2 คนแล้วว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควรที่กระทำแบบนี้ แต่ก็ยังไม่ปรับปรุงแก้ไข ชาวบ้านก็ยังเห็นเข้าออกกุฏิเหมือนเดิม กระทั่งล่าสุดชาวบ้านได้พบเห็นชายหญิงขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่กุฏิ จากนั้นผู้ชายได้ขี่รถออกไป ส่วนผู้หญิงเข้าไปในกุฏิอยู่ 2 ต่อ 2 กับเจ้าอาวาส ซึ่งชาวบ้านที่เห็นจึงพากันรวมตัวมาปิดประตูไว้ และได้แจ้งผู้นำชุมชน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่ามีผู้หญิงอยู่จริง
ขณะที่ นายวีระพงษ์ กันตันหา กำนันตำบลเชียงเครือ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งและร้องเรียนจากชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน เกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว และเคยเข้าไปว่ากล่าวตักเตือนทั้งพระทั้งผู้หญิงว่าเป็นการประพฤติตัวไม่เหมาะสม จะทำให้เสื่อมเสียทางพระพุทธศาสนา แต่ก็ไม่ปฏิบัติตาม จากนั้นได้พบปะพูดคุยกับผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อที่จะหาวัน และช่วงโอกาสที่จะตรวจสอบว่ามีผู้หญิงมาจริงหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการนัดวัน เวลา และสถานที่ตรวจสอบกัน และล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่บ้านว่ามีผู้หญิงเข้ามาในกุฏิ ทำให้ทุกคนต่างรีบออกไปดู ซึ่งก็พบว่ามีผู้หญิงอยู่ข้างในจริง ๆ จึงแจ้งตำรวจและผู้เกี่ยวข้องมาเป็นพยานว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง ซึ่งเรื่องนี้อยากให้จบลง เนื่องจากเป็นการทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนา และชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่อยากให้พระรูปนี้กลับมาอีก
อย่างไรก็ตาม หลังจากรักษาการเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าคณะตำบลเชียงเครือ ประชุมร่วมกับผู้นำชุมชน คณะสงฆ์ และชาวบ้าน รวมทั้งสอบถามพยานนานกว่า 2 ชั่วโมง พระครูปัญญา มัชฌิมานุกูล รักษาการเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า เบื้องต้นเรื่องดังกล่าวมีพยานหลักฐาน และคลิปวิดีโอที่ชาวบ้านถ่ายไว้ก็ชัดเจน ประกอบกับเจ้าตัวไม่อยู่ชี้แจง จึงเป็นการทำผิดทางวินัยสงฆ์ ต้องอาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระไปโดยปริยาย
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะสงฆ์ เพื่อที่จะมีมติสั่งปลดเจ้าอาวาสออกจากตำแหน่ง และจะแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสขึ้นมา เพื่อทำให้ที่เจ้าอาวาส พร้อมกับดำเนินการขั้นตอนต่อไป
Cr. nationtv







