สถานการณ์น้ำเจ้าพระยาใกล้ถึงจุดวิกฤต 3 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วม

วันนี้ (16 ก.ย. 68) "สถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา"ยังคงน่าเป็นห่วง หลังจากมีรายงานว่าปริมาณน้ำทางตอนบนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กรมชลประทาน ต้องประกาศปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ภาพรวมสถานการณ์น้ำ

ข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. จากสถานีวัดน้ำสำคัญบ่งชี้ว่าปริมาณน้ำยังคงเพิ่มขึ้น โดยที่ สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,241 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีระดับน้ำที่ 23.38 เมตร ซึ่งยังต่ำกว่าตลิ่ง 2.32 เมตร แต่มีแนวโน้มสูงขึ้น
 

ขณะที่ สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.26 เมตร และระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 14.68 เมตร ซึ่งต่ำกว่าตลิ่ง 1.66 เมตร โดยภาพรวมยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

กรมชลประทานประกาศปรับเพิ่มการระบายน้ำ

เพื่อรับมือกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น กรมชลประทานจึงมีมติให้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตราเดิม 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 01.00 น. ของวันที่ 17 กันยายน 2568 เป็นต้นไป และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงอัตราดังกล่าวภายในเวลา 11.00 น. ของวันพรุ่งนี้
 

คำเตือนและพื้นที่เฝ้าระวัง

กรมชลประทาน ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำที่อยู่ติดแม่น้ำน้อย และพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายจังหวัดให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่:

• จังหวัดอ่างทอง : บริเวณคลองโผงเผง และวัดไชโย
• จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : บริเวณคลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา, ต.ลาดชิด และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่
• จังหวัดสิงห์บุรี : บริเวณวัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี, อ.เมืองสิงห์บุรี และ อ.พรหมบุรี

นอกจากนี้ กรมชลประทาน จะคอยแจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำเป็นระยะ หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลให้ต้องเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้นกว่าที่ประกาศไว้ในครั้งนี้