ปภ. แนะข้อควรปฏิบัติ เมื่อต้องขับรถขณะฝนตก ลดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ

เช็ก! ปภ. แนะข้อควรปฏิบัติ เมื่อต้องขับรถขณะฝนตก ย้ำ ไม่ขับเร็ว - เว้นระยะห่าง - ไม่เบรกหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน ช่วยลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะข้อควรปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขเหตุฉุกเฉินในการขับรถช่วงฝนตก โดยผู้ขับขี่ไม่ควรขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าปกติ และไม่หยุดรถหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน เพื่อ ป้องกันอุบัติเหตุรถชนท้ายหรือเฉี่ยวชน รวมถึงไม่เบรกรถในเส้นทางเปียกลื่นแบบกะทันหัน เพราะจะทำให้ล้อล็อก รถเสียการทรงตัวและพลิกคว่ำ กรณีขับรถผ่านเส้นทางที่เป็นดินโคลนและมีหลุมบ่อ หากรถมีอาการล้อหนืด ให้หมุนพวงมาลัยช้า ๆ ในทิศตรงข้าม เพื่อให้ล้อเกาะพื้นดินใหม่ ป้องกันรถติดหล่ม
โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระยะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก การขับรถในช่วงฝนตกอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผู้ขับขี่จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำท่วมขัง และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะนำ
ข้อควรปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขเหตุฉุกเฉินในการขับรถช่วงฝนตก ดังนี้
- รถชนท้ายหรือเฉี่ยวชน เกิดจากการขับรถตามหลังรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด หากถนนเปียกลื่น เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จึงไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ผู้ขับขี่ไม่ควรขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าปกติ
- ไม่หยุดหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร ซึ่งรถพลิกคว่ำ เกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูง และเบรกกะทันหันในเส้นทางเปียกลื่น ทำให้ล้อล็อก รถเสียการทรงตัวและพลิกคว่ำได้
- รถติดหล่ม เกิดจากการขับรถผ่านเส้นทางที่เป็นดินโคลนและมีหลุมบ่อ โดยเฉพาะถนนที่เป็นลูกรัง ทางเดิน หรือทางในป่าเขา ทำให้ล้อรถติดหล่มได้ ผู้ขับขี่ควรขับรถไปตามเส้นทางที่รอยล้อรถวิ่ง หากรถมีอาการล้อหนืด ให้หมุนพวงมาลัยช้า ๆ ในทิศตรงข้าม เพื่อให้ล้อเกาะพื้นดินใหม่ ห้ามเร่งเครื่องยนต์หรือหักพวงมาลัยแรง เพราะจะทำให้ล้อรถจมโคลนลึกกว่าเดิม
- รถหลุดโค้ง เกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงขณะผ่านทางโค้ง ทำให้รถไถลออกนอกเส้นทาง ผู้ขับขี่ควรใช้ความเร็วในระดับที่สามารถควบคุมรถได้
- ไม่เหยียบเบรกขณะเข้าโค้ง เพราะจะเกิดแรงเหวี่ยง ทำให้รถหลุดโค้ง รถเหินน้ำ เกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงผ่านแอ่งน้ำ ส่งผลให้ยางรีดน้ำไม่ทัน ทำให้ล้อรถลอยบนผิวน้ำและหน้ายางไม่สัมผัสพื้นถนน ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วเมื่อขับผ่านเส้นทางที่มีแอ่งน้ำ รวมถึงไม่เหยียบเบรกและหักพวงมาลัยกะทันหัน
ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย , X @DDPMNews , Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784" รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 (ตลอด 24 ชั่วโมง)







