น้ำเจ้าพระยาเอ่อ! กรมชลฯ ปรับแผนระบายน้ำ กระทบ 4 จังหวัดท้ายน้ำ

น้ำเจ้าพระยาเอ่อ! กรมชลฯ ปรับแผนระบายน้ำ กระทบ 4 จังหวัดท้ายน้ำ

กรมชลประทาน เพิ่มการระบายน้ำผ่าน "เขื่อนเจ้าพระยา" หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง หวั่นกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำใน 4 จังหวัดท้ายน้ำ ขอประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

วันนี้ (15 ก.ย. 68) กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา ว่า จากอิทธิพลของฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่แม่น้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการบริหารจัดการด้วยการทดน้ำและระบายน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังมีปริมาณน้ำส่วนเกินที่ต้องระบายออกผ่าน เขื่อนเจ้าพระยา

น้ำเจ้าพระยาเอ่อ! กรมชลฯ ปรับแผนระบายน้ำ กระทบ 4 จังหวัดท้ายน้ำ

เพื่อควบคุมสถานการณ์และลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) จึงมีมติให้กรมชลประทานปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,000 – 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 40 – 60 เซนติเมตร โดยจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำในบางพื้นที่ ได้แก่

  • จังหวัดชัยนาท : ตำบลโพนางดำออก และบ้านท่าทราย อำเภอสรรพยา
  • จังหวัดสิงห์บุรี : วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี, อำเภอพรหมบุรี และวัดเสือข้าม อำเภอเมืองสิงห์บุรี
  • จังหวัดอ่างทอง : วัดไชโย ตำบลเทวราช อำเภอไชโย, อำเภอป่าโมก และคลองโผงเผง
  • จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา, ตำบลลาดชิด และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่, รวมถึงพื้นที่ริมแม่น้ำน้อย สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ และคลองบางบาล

น้ำเจ้าพระยาเอ่อ! กรมชลฯ ปรับแผนระบายน้ำ กระทบ 4 จังหวัดท้ายน้ำ
 

กรมชลประทาน ได้เร่งติดตั้งและเดินเครื่องสูบน้ำ รวมถึงเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อช่วยระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยให้เร็วขึ้น พร้อมกับการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ให้ประชาชนสามารถเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที

ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดตามข่าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลสถานการณ์น้ำได้ที่เว็บไซต์ wmsc.rid.go.th และ bigdata-swoc.rid.go.th