'ชัชชาติ' ลงพื้นที่ปิดจุดฟันหลอเจ้าพระยา ย้ำพร้อมรับมือน้ำท่วม

วันนี้ (11 ก.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อติดตามความคืบหน้าการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยยืนยันว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำในจุดฟันหลอมีความคืบหน้าไปมาก และ กทม. มีความพร้อมเต็มที่ในการดูแลประชาชน

กทม. เผชิญความเสี่ยง 3 ด้าน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ต้องเฝ้าระวังจากปัจจัยหลัก 3 ส่วน ได้แก่ น้ำฝนในพื้นที่ ที่ช่วงนี้ตกหนักและต่อเนื่อง, น้ำทะเลหนุนสูง ที่ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น และ น้ำเหนือ ซึ่งแม้ปริมาณน้ำในเขื่อนจะใกล้เคียงกับปี 2554 แต่เชื่อมั่นว่าปีนี้จะสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่า เนื่องจากมีบทเรียนและประสบการณ์จากอดีต
 

ปัจจุบันเขื่อนทยอยปล่อยน้ำลงมาในอัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังต่ำกว่าระดับวิกฤตที่ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหากเกิดพายุหรือฝนตกหนักทางภาคเหนือ ซึ่งอาจทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นและจำเป็นต้องปล่อยน้ำเพิ่มขึ้น

ปิดจุดฟันหลอคืบหน้า ใช้งานได้จริง

สำหรับจุดฟันหลอหรือจุดที่ไม่มีแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีทั้งหมด 32 จุด ขณะนี้ได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว 22 จุด และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 10 จุด โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ 3 จุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนอีก 7 จุดที่เหลือได้มีการจัดเรียงกระสอบทรายไว้เป็นการชั่วคราวแล้ว
 

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดสำคัญต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่น บริเวณ ปตร.บางกรวย ซึ่งเทศบาลเมืองบางกรวยได้ทำคันดินชั่วคราวช่วยป้องกันน้ำได้สำเร็จ รวมถึงบริเวณวัดวิมุตยารามและวังหลังที่เพิ่งสร้างเขื่อนเสร็จสมบูรณ์ ทำให้การป้องกันน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบจุดอ่อนอื่นๆ เช่น วัดจันทร์สโมสรและวัดระฆัง และสั่งการให้มีการเตรียมกระสอบทรายเพื่อรับมืออย่างพร้อมเพรียง

ในตอนท้าย ผู้ว่าฯ ชัชชาติย้ำว่า กทม. พร้อมที่จะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ หากพบปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่ Traffy Fondue หรือสายด่วน 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกำชับสำนักการระบายน้ำให้ดูแลและเสริมความแข็งแรงของแนวคันกั้นน้ำอย่างต่อเนื่อง