'คนละครึ่ง' ถกสนั่น 'ธีระชัย' มองต่างมุม ชี้เป็นรัฐสวัสดิการ

'คนละครึ่ง' ถกสนั่น 'ธีระชัย' มองต่างมุม ชี้เป็นรัฐสวัสดิการ

"ธีระชัย" อดีต รมว.คลัง มองต่างมุมต่อโครงการ "คนละครึ่ง" ชี้เป็น "รัฐสวัสดิการ" ไม่ใช่เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะจำกัดวง-เน้นลงทุน ไม่ใช่บริโภค

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฝ่ายเศรษฐกิจ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อแนวคิดการนำโครงการ "คนละครึ่ง" กลับมาใช้อีกครั้ง ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึง และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เสนอให้มีการปรับสัดส่วนการร่วมจ่ายเป็น 60:40 สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี

นายธีระชัย ได้กล่าวชื่นชมแนวคิดของนายเอกนิติที่มุ่งขยายฐานภาษี แต่ได้ตั้งข้อสังเกตและข้อกังวลเกี่ยวกับหลักการวินัยการเงินการคลัง โดยระบุว่า "โครงการคนละครึ่ง" ของไทยมีลักษณะเป็น "รัฐสวัสดิการ" มากกว่า "เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ" เมื่อเทียบกับโครงการลักษณะเดียวกันในต่างประเทศ

"คนละครึ่ง" ของไทยเป็นรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายธีระชัย อธิบายว่า โครงการในต่างประเทศมักมีเงื่อนไขให้ประชาชนต้องใช้จ่ายขั้นต่ำ (floor) ก่อนถึงจะได้รับสิทธิ และกำหนดอายุสิทธิให้สั้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายทันที แต่สำหรับโครงการ "คนละครึ่ง" ของไทยไม่มีเงื่อนไขดังกล่าว และยังสามารถยกยอดสิทธิไปใช้ในอนาคตได้ ทำให้มีสภาพเป็นรัฐสวัสดิการที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน

ควรจำกัดวงช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

ด้วยเหตุที่โครงการนี้มีลักษณะเป็นรัฐสวัสดิการ นายธีระชัยจึงเสนอว่าควรจำกัดวงการช่วยเหลือให้แก่ "กลุ่มเปราะบาง" โดยเฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น ไม่ควรเปิดให้บุคคลทั่วไปที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เข้ามาได้รับสิทธิ เพราะจะกลายเป็นการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่เหมาะสม หรือ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ"
 

กู้เงินเพื่อลงทุน ไม่ใช่เพื่อบริโภค

นอกจากนี้ นายธีระชัยยังกล่าวถึงประเด็นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างประหยัด โดยชี้ว่าการดำเนินโครงการ "คนละครึ่ง" ทำให้ตัวเลขการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น และการกู้หนี้สาธารณะเพื่อมาใช้จ่ายในลักษณะนี้ (consumption) เป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับหลักการวินัยการเงินการคลังที่ถูกต้อง การกู้หนี้สาธารณะที่ปลอดภัยควรนำไปใช้เพื่อ "การลงทุน" (investment) ที่จะสร้างผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่าการบริโภค

นายธีระชัย เห็นว่ารัฐบาลควรพิจารณาและกำหนดวงเงินสำหรับโครงการ "คนละครึ่ง" อย่างเหมาะสม และควรปรับให้สอดคล้องกับหลักการวินัยการเงินการคลัง โดยเน้นช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง และควรให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อสร้างการลงทุนมากกว่าการบริโภคเพื่อการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนในระยะยาว