น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาพุ่ง ชัยนาท รับน้ำทะลัก 3 อำเภอเสี่ยงท่วม

สถานการณ์น้ำล่าสุด มีประกาศด่วนที่สุด ระดับน้ำเจ้าพระยาขึ้นวิกฤต "ชัยนาท" ประกาศเตือนด่วน 3 อำเภอริมน้ำ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน หลังฝนตกหนัก น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาพุ่งสูงกว่า 0.35 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำเร่งขนของขึ้นที่สูง และระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้า "ไฟฟ้าช็อต" จับตาสถานการณ์ใกล้ชิด 

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท แจ้งเตือน! ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้นอีก 0.35 เมตร (+17.00 ม.รท.) ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำในพื้นที่

• อำเภอมโนรมย์ (ต.ท่าฉนวน, ต.ศิลาดาน, ต.วัดโคก, ต.คุ้งสำเภา)
• อำเภอวัดสิงห์ (ต.มะขามเฒ่า, ต.วัดสิงห์)
• อำเภอเมืองชัยนาท (ต.ธรรมามูล, ต.หาดท่าเสา, ต.เขาท่าพระ, ต.ท่าชัย, ต.บ้านกล้วย, ต.ชัยนาท)

เคลื่อนย้ายทรัพย์สินไว้บนที่สูงพ้นจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้า และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ประกาศด่วนที่สุด ควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา หลังฝนตกหนัก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

สำนักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ประกาศด่วนที่สุด แจ้งเตือนการควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จากสถานการณ์มีฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมจากพื้นที่ตอนบนและจากในพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำและระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยามีสูงขึ้น ปัจจุบัน ณ วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 06.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 2,075 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +16.65 ม.รท. ระบายน้ำท้ายเขื่อนในอัตรา 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 

ดังนั้น เพื่อควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทาน จึงมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้เป็นการชั่วคราว

ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น ประมาณ 0.35 เมตร จากปัจจุบัน โดยจะยกระดับเหนือเขื่อนขึ้นเท่าที่จำเป็น และรักษาระดับไม่เกิน +17.00 ม.รท.

ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสถานการณ์น้ำ สำนักงานชลประทานที่ 12 จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จังหวัดประกาศประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด