ฝนถล่ม กรุงเทพฯ 157 มม. หนักสุดในรอบปี เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม

ฝนถล่ม กรุงเทพฯ 157 มม. หนักสุดในรอบปี เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลงพื้นที่สถานีสูบน้ำ เผย 3 วันฝนตกหนักสูงสุด 157 มม. ที่เขตทวีวัฒนา เครื่องสูบน้ำเสียหาย 2 ตัว ปัญหาขยะในคลองเป็นอุปสรรคสำคัญ

วันนี้ (7 ก.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และคณะผู้บริหาร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีสูบน้ำเอกมัย เขตวัฒนา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง ในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังเผชิญกับฝนตกหนัก ต่อเนื่องในช่วง 3 วันที่ผ่านมา

ผู้ว่าฯชัชชาติ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีปริมาณฝนตกสะสมค่อนข้างสูง โดยเมื่อวันพฤหัสบดีมีฝนตกหนักกว่า 100 มิลลิเมตร วันศุกร์เกือบ 130 มิลลิเมตร และเมื่อคืนที่ผ่านมาวัดปริมาณฝนได้ถึง 157 มิลลิเมตร โดยจุดที่ตกหนักสุดคือที่ เขตทวีวัฒนา สถานการณ์ล่าสุดหลายพื้นที่ที่เคยมีน้ำท่วมขังได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว เช่น หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค, ซอยอ่อนนุช 59, ถนนรามคำแหง และถนนโชคชัย 4 ส่วนถนนสุขุมวิท 71 ที่เมื่อวานมีน้ำท่วม เกิดจากปัญหากระแสไฟฟ้าดับในวงกว้าง ทำให้สถานีสูบน้ำทำงานได้ไม่เต็มที่
 

เร่งซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำที่ชำรุด

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อว่า ที่สถานีสูบน้ำเอกมัย ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการระบายน้ำในคลองแสนแสบ ปัจจุบันใช้ระบบ Pipe Jacking หรือการดันลอดท่อ และมีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 6 ตัว แต่เมื่อคืนที่ผ่านมามีเครื่องสูบน้ำ 2 ตัวได้รับความเสียหายเนื่องจากแผงควบคุมไหม้จากการทำงานหนัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว รวมถึงการเร่งพร่องน้ำในคลองต่าง ๆ เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะตกเพิ่มขึ้น

ย้ำปัญหาขยะในคลองที่กระทบการระบายน้ำ

หลังจากนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้เดินทางต่อไปยังสถานีสูบน้ำพระโขนง เขตคลองเตย ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการรับน้ำจากหลายคลองสำคัญ เช่น คลองแสนแสบ, คลองลาดพร้าว และคลองประเวศบุรีรมย์ ก่อนระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือ ขยะจำนวนมาก ที่ไหลมาตามคลองและมาติดอยู่ที่ตะแกรงของสถานีสูบน้ำ ทั้งขวดพลาสติก, เศษต้นไม้, หมอนข้าง, ฟูกที่นอน ไปจนถึงเก้าอี้โซฟา ซึ่งขยะเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการระบายน้ำและอาจทำให้เครื่องสูบน้ำเสียหายได้ ผู้ว่าฯ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้งดทิ้งขยะลงคลองอย่างเด็ดขาด

ระบบระบายน้ำอุโมงค์และคลองต้องทำงานร่วมกัน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังกล่าวถึงการทำงานของอุโมงค์ระบายน้ำว่า เปรียบเสมือน ทางด่วนของน้ำ ที่สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว แต่มีข้อจำกัดเรื่องจุดรับน้ำ ต่างจากระบบคลองที่เปรียบเหมือนถนนทั่วไปที่รับน้ำได้ตลอดเส้นทางแต่ระบายได้ช้ากว่า ทั้งสองระบบจึงต้องทำงานร่วมกันอย่างสมดุลเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งชื่นชมเจ้าหน้าที่ประจำสถานีสูบน้ำทุกคนที่ทำงานอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้กับชาวกรุงเทพฯ

ประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังยังสามารถแจ้งเหตุได้ที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร โทร. 02-248-5115 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง