วัดพระบาทน้ำพุ เตรียมปิดศูนย์ชีวาภิบาล 16 ก.ย.68 เร่งหาที่รองรับ

วัดพระบาทน้ำพุ เตรียมปิดศูนย์ชีวาภิบาล 16 ก.ย.68 เร่งหาที่รองรับ

"วัดพระบาทน้ำพุ" เตรียมปิดศูนย์ชีวาภิบาล 16 ก.ย.นี้ โดยหน่วยงานภาครัฐกำลังเร่งหาที่รองรับและแนวทางช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน

วันนี้ (4 ก.ย. 68) นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานในการประชุมหารือร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือผู้ป่วยและกลุ่มเปราะบางที่วัดพระบาทน้ำพุ

จากการประชุม มีความเห็นตรงกันว่ามีความจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากวัด เนื่องจากวัดขาดแคลนงบประมาณในการบริหารจัดการ โดยนายปรัชญาชี้แจงว่าเงินของวัดที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบนั้น ต้องนำไปใช้ในกิจการของสงฆ์เท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ในส่วนอื่นได้

วัดพระบาทน้ำพุ เตรียมปิดศูนย์ชีวาภิบาล 16 ก.ย.68 เร่งหาที่รองรับ
 

แผนการย้ายผู้ป่วยและแนวทางการช่วยเหลือ

กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมสถานที่รองรับเพื่อดูแลผู้ป่วยที่ต้องการการรักษา ส่วนผู้ป่วยที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และมีสุขภาพแข็งแรง ทางจังหวัดจะดำเนินการส่งกลับภูมิลำเนาเดิม โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจกับผู้ป่วยแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีแผนรองรับสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ประสงค์จะย้ายออกจากวัด โดยจะถูกนำไปอยู่ที่โครงการธรรมรักษ์ 2 อำเภอหนองม่วง และจะมีการส่งเสริมอาชีพเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต

วัดพระบาทน้ำพุ เตรียมปิดศูนย์ชีวาภิบาล 16 ก.ย.68 เร่งหาที่รองรับ
 

ปิดศูนย์ชีวาภิบาล 16 กันยายนนี้

นายแพทย์ปิยะเดช วลีพิทักษ์เดช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า สถานการณ์ค่าใช้จ่ายของวัดในปัจจุบันมีข้อจำกัดด้านกฎหมายในการใช้เงิน ผู้ป่วยในศูนย์ชีวาภิบาล 11 คน จะถูกย้ายไปดูแลยังสถานที่ใหม่ โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 15 กันยายน 2568 และจะปิดศูนย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 16 กันยายน 2568 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะรับผิดชอบดูแลกลุ่มผู้ป่วยนี้ต่อไป

สำหรับผู้ป่วยในตึกคนดีอวดผี ซึ่งมีผู้ป่วย HIV 51 ราย และผู้ป่วยทั่วไป 7 ราย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งประสานหาสถานที่เพื่อย้ายผู้ป่วยทั้งหมด

เบื้องต้น มีมูลนิธิ 4 แห่ง เข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้มีภาวะพึ่งพิง 13 ราย ในส่วนของผู้ป่วย HIV ที่พักอาศัยอยู่ในบ้านเป็นหลังภายในวัดอีกกว่า 70 ราย ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงและทำงานช่วยเหลือวัด ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดำเนินการคัดแยกและส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป

ในระหว่างนี้ มูลนิธิลพบุรีสามัคคีเคราะห์ได้มอบข้าวสาร 500 กิโลกรัม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยที่ยังคงอยู่ในความดูแลของวัด

 

ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี