เปิดประวัติ 'เหรียญกล้าหาญ' เหรียญเชิดชูวีรกรรมผู้กล้าแห่งแผ่นดิน

เปิดประวัติ 'เหรียญกล้าหาญ' เหรียญเชิดชูวีรกรรม พระราชทานแก่บุคคล ตำรวจ หรือหน่วยทหาร ที่กระทำการรบอย่างกล้าหาญกับราชศัตรู
เปิดประวัติ 'เหรียญกล้าหาญ' เหรียญเชิดชูวีรกรรมผู้กล้าแห่งแผ่นดิน เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2484 โดยใช้ชื่อย่อว่า ร.ก. โดยสร้างขึ้นตามพระราชกำหนดเหรียญกล้าหาญ พ.ศ. 2484 เพื่อพระราชทานเป็นบำเหน็จความกล้าหาญทดแทนเหรียญดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ ต่อมาได้มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับเหรียญกล้าหาญ โดยยกเลิกกฎหมายฉบับเดิม และตราพระราชบัญญัติเหรียญกล้าหาญ พ.ศ. 2521 เพื่อบังคับใช้แทนที่ต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ลักษณะของเหรียญกล้าหาญ
เหรียญกล้าหาญ มีลักษณะเป็นเหรียญโลหะกลมรมดำ ด้านหน้ามีพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกำลังทรงกระทำยุทธหัตถีกับราชศัตรู มีอักษรจารึกว่า 'สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกู้ชาติ'
ด้านหลังมีอักษรจารึกว่า 'เรากล้ารบเพื่อเกียรติศักดิ์ไทย' ตัวเหรียญห้อยกับแพรแถบสีแดงขาว กว้าง 3.5 เซนติเมตร ข้างบนมีเข็มโลหะรมดำรูปคทาจอมพลจารึกอักษรว่า 'กล้าหาญ'
ผู้มีสิทธิ์ได้รับพระราชทาน ตามพระราชบัญญัติเหรียญกล้าหาญ พ.ศ. 2521 ได้แก่
- ทหาร
- ตำรวจ
- หน่วยทหาร
- ผู้กระทำหน้าที่อย่างทหาร หรือตำรวจ
*ผู้ที่ได้กระทำการสู้รบอย่างกล้าหาญกับราชศัตรูตามหลักเกณฑ์ที่ กห. กำหนด
*ในกรณีที่บุคคลซึ่งสมควรได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ 'เสียชีวิต' จะได้พระราชทานแก่ทายาทโดยธรรมคนใดคนหนึ่งของผู้นั้น แต่ทายาทไม่มีสิทธิ์ประดับเหรียญกล้าหาญดังกล่าว
หลักเกณฑ์การขอพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้กับหน่วยทหาร
คุณสมบัติ : ต้องเป็นหน่วยทหารตั้งแต่ระดับกองพัน หรือเทียบเท่าขึ้นไป และให้ใช้หลักเกณฑ์ในทำนองเดียวกับการขอพระราชทานเหรียญกล้าหาญแก่บุคคล ดังนี้
- กระทำการสู้รบด้วยความองอาจ กล้าหาญเป็นพิเศษอย่างยิ่งยวด
- เสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อกระทำการให้สำเร็จตามหน้าที่ และคุ้มค่ากับการเสียสละนั้นๆ
- กระทำการนั้นได้ผลสมความมุ่งหมายของทางราชการ
- เป็นหน่วยทหารที่ปฏิบัติการสู้รบในความอำนวยการของผู้บังคับหน่วยระดับไม่ต่ำกว่ากองพันหรือเทียบเท่า โดยมีอย่างน้อย 1 กองร้อย หรือเทียบเท่า และหน่วยทหารนั้นมีผู้ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ หรือเหรียญอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน
- การปฏิบัติการสู้รบของหน่วยทหารไม่เคยมีประวัติที่เสื่อมเสีย พร้อมทั้งได้รับคำชมเชยเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ชั้นผู้บัญชาการเหล่าทัพขึ้นไป







