กางแผนโอนเงินไร่ละ 1000 บาท เช็กเลยวันนี้ เงินเข้ากระเป๋าใครบ้าง
ธ.ก.ส. เดินหน้าโอนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาทแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยจะทยอยโอนให้ครบทุกภาคภายในวันที่ 4 ก.ย. เกษตรกรเช็กสิทธิ์และตรวจสอบสถานะได้เลย
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เริ่มดำเนินการโอนเงินตามโครงการช่วยเหลือชาวนาแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังและข้าวนาปี รวมทั้งสิ้น 4.63 ล้านครัวเรือน ในอัตรา ไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งเป็นการโอนครั้งแรกให้กับผู้ที่ขึ้นทะเบียนสำเร็จจากกรมส่งเสริมการเกษตร
สำหรับการโอนเงินช่วยเหลือรอบแรกในวันที่ 1 กันยายน 2568 ธ.ก.ส. ได้โอนเงินให้กับชาวนาทั่วประเทศไปแล้วจำนวน 769,461 ราย คิดเป็นวงเงินกว่า 6,280 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ได้วางแผนการโอนเงินเพิ่มเติมในวันที่ 2-4 กันยายน 2568 โดยแบ่งเป็น 3 รอบตามภูมิภาค ดังนี้
- รอบที่ 1 (วันที่ 2 ก.ย. 2568) : เกษตรกรภาคเหนือ 286,831 ราย วงเงิน 2,459 ล้านบาท
- รอบที่ 2 (วันที่ 3 ก.ย. 2568) : เกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,291,298 ราย วงเงิน 10,586 ล้านบาท
- รอบที่ 3 (วันที่ 4 ก.ย. 2568) : เกษตรกรในภูมิภาคอื่น ๆ 137,478 ราย วงเงิน 1,254 ล้านบาท
สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือในรอบนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลการผลิต หลังจากนั้นจะส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินต่อไป
ธ.ก.ส. เตรียมสินเชื่อกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าว
นอกเหนือจากการโอนเงินช่วยเหลือ ธ.ก.ส. ยังได้เตรียมมาตรการรักษาเสถียรภาพข้าวเปลือก ปีการผลิต 2568/69 วงเงินรวมกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อช่วยลดผลผลิตที่ล้นตลาดและเพิ่มมูลค่าให้กับข้าว
มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย
สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี (วงเงิน 35,000 ล้านบาท): เพื่อสนับสนุนให้ชาวนาและสถาบันเกษตรกรเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางจนกว่าราคาจะดีขึ้น รัฐบาลจะช่วยชำระดอกเบี้ยแทน โดยเกษตรกรรายย่อยที่อยู่ในมาตรการพักชำระหนี้ก็สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้
นอกจากนี้ ยังมี ค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือก โดยชาวนาที่เก็บข้าวเองจะได้รับ 1,500 บาทต่อตัน ส่วนถ้าฝากกับสถาบันเกษตรกร ชาวนาจะได้รับ 500 บาทต่อตัน และสถาบันฯ จะได้รับ 1,000 บาทต่อตัน
สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม (วงเงิน 15,000 ล้านบาท): เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้สถาบันเกษตรกรในการรับซื้อข้าวจากชาวนา หรือนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าก่อนจำหน่าย โดยสถาบันฯ จะชำระดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลและ ธ.ก.ส. จะช่วยชำระแทน