สปสช. เพิ่มหน่วยบริการมาตรา 3 ให้ผู้ป่วยเฉพาะกลุ่ม ‘สิทธิบัตรทอง’

บอร์ด สปสช. อนุมัติเพิ่มหน่วยบริการมาตรา 3 “มิตรภาพบำบัด–ฟื้นฟูผู้ใช้สารเสพติด–พัฒนาทักษะคนหูหนวก” การเข้าถึงบริการ “ผู้ป่วยเฉพาะกลุ่ม” ใน‘สิทธิบัตรทอง’
บอร์ด สปสช. อนุมัติเพิ่มหน่วยบริการมาตรา 3 “มิตรภาพบำบัด–ฟื้นฟูผู้ใช้สารเสพติด–พัฒนาทักษะคนหูหนวก” การเข้าถึงบริการ “ผู้ป่วยเฉพาะกลุ่ม” ใน ‘สิทธิบัตรทอง’
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบ “ข้อเสนอการกำหนดให้องค์กรภาคประชาชน องค์กรเอกชน หรือหน่วยงาน เป็นสถานบริการสาธารณสุขอื่นที่คณะกรรมการกำหนดเพิ่มเติม ตามมาตรา 3 แห่งพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545” เสนอโดย รศ.ดร.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอการกำหนดให้องค์กรภาคประชาชน องค์กรเอกชน หรือหน่วยงาน เป็นสถานบริการสาธารณสุขอื่นที่คณะกรรมการกำหนดเพิ่มเติม ตามมาตรา 3 ในบริการ 3 ประเภท ดังนี้
1.บริการมิตรภาพบำบัด
2.บริการสำหรับผู้ใช้สารเสพติด
3.บริการพัฒนาทักษะการสื่อสารเพื่อการดำรงชีวิตอิสระสำหรับคนหูหนวก
พร้อมเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง กำหนดสถานบริการสาธารณสุขอื่นเป็นสถานบริการตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. …. โดยมอบให้ สปสช. ดำเนินการตามกระบวนการของสำนักงาน และเสนอ รมว.สาธารณสุข พิจารณาลงนาม ตลอดจนให้ สปสช. จัดทำระบบการกำกับติดตามและประเมินผลลัพธ์การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ การพิจารณาดังกล่าวเป็นผลจากมติ บอร์ด สปสช. ครั้งที่ 2/2563 (3 ก.พ. 63) ที่เห็นชอบแนวการพิจารณากำหนดเป็นสถานบริการสาธารณสุขอื่นตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยให้องค์กรหรือหน่วยงานที่ให้บริการสาธารณสุขตาม มาตรา 3 ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของ พ.ร.บ.สถานพยาบาลฯ ร่วมขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการสาธารณสุขอื่นตามมาตรา 3 ได้ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการได้
“การอนุมัติข้อเสนอทั้ง 3 ด้านนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายบทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเข้ามาเสริมการทำงานของระบบบัตรทอง และช่วยเติมเต็มช่องว่างในการให้บริการแก่กลุ่มประชาชนที่มีความต้องการเฉพาะทางอย่างทั่วถึง สอดรับกับนโยบายรัฐบาล 30 บาทรักษาทุกที่” รมว.สาธารณสุข กล่าว
“ย้ำว่า หน่วยบริการทั้ง 3 ประเภทนี้ จะต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนตามที่กำหนด คือ ต้องไม่เป็นองค์กรหรือหน่วยงานภายใต้กำกับของ พ.ร.บ.สถานพยาบาล และต้องมีประสบการณ์ในการให้บริการตามประเภทหน่วยบริการมาแล้วไม่น้อยว่า 1 ปี
นอกจากนี้ยังต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคลากรผู้ให้บริการจะต้องผ่านการอบรมหรือหลักสูตรการให้บริการ ตามเกณฑ์การให้บริการของหน่วยบริการแต่ละประเภท ทั้งนี้เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับการบริการอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว







