ป.ป.ช.ถกผู้บริหารการเงิน พัฒนากลไกสอบทรัพย์สิน นักการเมือง

ป.ป.ช.จัดประชุมหารือเชิงนโยบายร่วมกับผู้บริหารจากสถาบันการเงิน สมาคมธนาคารไทย ขับเคลื่อนกลไกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนักการเมือง-ขรก.
KEY
POINTS
- ป.ป.ช. ประชุมร่วมกับสถาบันการเงินและสมาคมธนาคารไทย เพื่อพัฒนาความร่วมมือในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลทางการเงิน
- มีการนำเสนอความคืบหน้าของระบบรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Template กลาง) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ
- หารือถึงการขยายขอบเขตของระบบให้ครอบคลุมข้อมูลผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ เช่น สินเชื่อ ซึ่งยังคงมีข้อจำกัดทางเทคนิคที่ต้องร่วมกันแก้ไข
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) จัดการประชุมหารือเชิงนโยบายร่วมกับผู้บริหารจากสถาบันการเงิน สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก โดยได้รับเกียรติจาก นายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานการประชุม เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการพัฒนาและเชื่อมโยงฐานข้อมูลทางการเงินระหว่างหน่วยงาน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ
ในการประชุมครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้นำเสนอความก้าวหน้าของโครงการพัฒนา ระบบรับ–ส่งข้อมูลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Financial Information System: FIS หรือ Template กลาง)ซึ่งเป็นระบบที่อยู่ระหว่างการทดสอบขั้นสุดท้าย โดยได้ดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่องร่วมกับสมาคมธนาคารไทย โดยเฉพาะในกลุ่มข้อมูลบัญชีเงินฝาก และคาดว่าจะสามารถนำมาใช้งานจริงได้เร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการขยายขอบเขตของ Template กลาง ไปสู่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล และธุรกิจ ซึ่งมีความสำคัญต่อภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ช. แต่ยังคงมีข้อจำกัดในเชิงเทคนิค เนื่องจากระบบจัดเก็บข้อมูลของแต่ละธนาคารมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน รวมถึงความซับซ้อนของรูปแบบผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้การออกแบบระบบเชื่อมโยงกลางในส่วนนี้ต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบ และดำเนินการในลักษณะร่วมออกแบบมาตรฐานร่วมกัน
นายประภาศ คงเอียด ได้กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า “ป.ป.ช. มุ่งมั่นสร้างกลไกการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ด้วยการวางระบบข้อมูลที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบระหว่างภาครัฐกับภาคการเงิน ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านธรรมาภิบาลของประเทศในระยะยาว ทั้งนี้ ป.ป.ช. ตระหนักถึงภาระงานของธนาคารในด้านการบริหารข้อมูลของลูกค้า ดังนั้นแนวทางความร่วมมือใด ๆ ที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต จะไม่ก่อให้เกิดภาระทางการเงิน หรือภาระการดำเนินงานที่เกินสมควรต่อภาคธนาคาร”
ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เปิดกว้าง และอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมกัน โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเชิงนโยบาย ข้อเสนอแนะเชิงเทคนิค และแผนความร่วมมือในระยะถัดไป อันสะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันในการพัฒนากลไกการตรวจสอบที่สอดคล้องกับบริบทเทคโนโลยีของภาคการเงิน และสามารถนำไปสู่ระบบการตรวจสอบทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และได้รับความร่วมมืออย่างแท้จริงจากทุกภาคส่วน







